GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 19 พ.ค.65 by YLG

541

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

ขายทำกำไรระยะสั้นตามกรอบราคา ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้าน 1,836-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจจะเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,803-1,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,794 1,778 1,760  แนวต้าน : 1,836 1,851 1,868

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าในระหว่างวันราคาทองคำจะอ่อนตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,807.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นทะลุ 3% ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำย่ำฐานบริเวณดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับเริ่มฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.724 ล้านยูนิต นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่ม หลังจากดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 1,164.52 จุด หรือ -3.57%ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2020, ดัชนี S&P500 ปิด -4.04% และดัชนี Nasdaq ปิด -4.73%

เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทค้าปลีก สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ทั้งทองคำ รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งแรงซื้อพันธบัตรได้ฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้กลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 3% อีกครั้งจนเป็นปัจจัยหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม

แต่การปรับตัวขึ้นของทองคำในระหว่างวันยังคงอยู่ในกรอบจำกัด เพราะดัชนีดอลลาร์ได้อานิสงค์จากความต้องการฐานะสกุลเงินปลอดภัยเช่นกัน ซึ่งการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์เป็นปัจจัยสำคัญที่สกัดช่วงบวกราคาทองคำเอาไว้ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนพ.ค.เฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board

จจัยทางเทคนิค

หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,836 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทำให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาทดสอบแนวรับโซน 1,803-1,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับแรกได้ก็จะเห็นการอ่อนตัวลง โดยมีโอกาสที่จะราคาทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 1,778 ดอลลาร์ต่อออนซ์

- Advertisement -

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น แนะนำรอดูบริเวณ 1,836-1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านสามารถเปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้น (ตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 1,851 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้) ทยอยปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงบริเวณแนวรับ 1,803-1,794 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 1,164.52 จุด กังวลเงินเฟ้อกระทบธุรกิจค้าปลีก ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1,100 จุดในวันพุธ (18 พ.ค.) ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทค้าปลีก นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,490.07 จุด ร่วงลง 1,164.52 จุด หรือ -3.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,923.68 จุด ลดลง 165.17 จุด หรือ -4.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,418.15 จุด ลดลง 566.37 จุด หรือ -4.73% • (+) บอนด์ยีลด์สหรัฐร่วง หลังพุ่งทะลุ 3% ในช่วงแรก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นทะลุ 3% ในช่วงแรก ณ เวลา 20.50 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.968% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.155%

• (+) สหรัฐเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านลดลงมากกว่าคาดในเดือนเม.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 1.724 ล้านยูนิต ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงสู่ระดับ 1.765 ล้านยูนิต การเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และการขาดแคลนแรงงาน ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวดิ่งลง 7.3% สู่ระดับ 1.100 ล้านยูนิต ส่วนการก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัว ซึ่งรวมถึงอพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม พุ่งขึ้น 16.8% สู่ระดับ 612,000 ยูนิต การอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 3.2% สู่ระดับ 1.819 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564

• (+) CDC เผยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 เท่า แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในสหรัฐได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว และมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา แพทย์หญิงวาเลนสกีกล่าวว่า ค่าเฉลี่ย 7 วันของจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้พุ่งขึ้น 26% จากสัปดาห์ที่แล้วสู่ระดับ 94,000 รายต่อวัน ขณะที่ค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 19% สู่ระดับ 3,000 รายต่อวัน ส่วนค่าเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 275 รายต่อวัน “การที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกือบ 300 รายต่อวันถือเป็นตัวเลขที่สูงเกินไป” แพทย์หญิงวาเลนสกีกล่าว

• (-) น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.81 วิตกโรงกลั่นสหรัฐเร่งเพิ่มผลิต สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (18 พ.ค.) หลังมีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐเร่งเพิ่มการผลิตเพื่อรับมือกับสต็อกที่ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดตัวลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเงินเฟ้อ ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.59 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.82 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

• (-) “เยลเลน” เผยศก.สหรัฐสามารถรับมือผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถรับมือผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน “ดิฉันคิดว่าสหรัฐอยู่ในสถานะดีที่สุดที่จะเผชิญความท้าทายจากสงครามในยูเครน เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง” นางเยลเลนกล่าว ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่ม G7 ที่กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี

• (-) ดอลล์แข็งค่า หลังพาวเวลส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (18 พ.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.43% แตะที่ 103.8100 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2873 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2830 ดอลลาร์แคนาดา แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 128.12 เยน จากระดับ 129.43 เยน

และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9877 ฟรังก์ จากระดับ 0.9941 ฟรังก์ ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0479 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0549 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2346 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2481 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7014 ดอลลาร์สหรัฐ

- Advertisement -

Comments
Loading...