GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 19 ต.ค.64 by YLG

231

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

การเข้าซื้อพิจารณาโซนแนวรับบริเวณ 1,760-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,781-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,757 1,745 1,731  แนวต้าน : 1,781 1,800 1,817

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวานนี้ปิดลดลง -1.92ดอลลาร์ต่อออนซ์ระหว่างวันราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้มจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น  ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.62% ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 5 ปีเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.193% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020จนส่งผลกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย  นอกจากนี้  การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังหนุนดัชนีดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 94.17 จนเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่กดดันราคาทองคำให้ร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,760.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน  ก่อนที่ราคาทองคำจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร  ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐปรับตัวลง 1.3% ในเดือนก.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งนั่นส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ลดช่วงบวกที่ทำในระหว่างวัน  ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงปิดตลาดต่ำกว่า 1.6% จนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงราคาทองคำเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ  รวมถึงถ้อยแถลงของนางแมรี ดาลีย์ ประธานเฟดซานฟรานซิสโก นางมิเชลล์ โบว์แมน หนึ่งในผู้ว่าการเฟด  นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนตา  และนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ว่าการของเฟด  เพื่อใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำ

จจัยทางเทคนิค :

ระหว่างวันหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,760-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านหากสามารถยืนเหนือแนวต้านแรกบริเวณ 1,781 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญโซน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะซื้อ โดยใช้แนวรับบริเวณ 1,760-1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตัดขาดทุนหากหลุด1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ ชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูการสร้างฐานของราคา ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,781-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) นักลงทุนคาด BoE เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเดือนพ.ย.ถึงปีหน้า หวังสกัดเงินเฟ้อนักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเป็นธนาคารกลางแห่งแรกในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว  ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. รวมทั้งจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อไปในปีหน้า หลังจากที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น  ทั้งนี้ การซื้อขายสัญญาอัตราดอกเบี้ยในตลาดฟิวเจอร์บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.15% ในเดือนพ.ย. และ 0.25% ในเดือนธ.ค. รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2565 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE พุ่งแตะระดับ 1.25%
  • (+) เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 1.3% ในเดือนก.ย.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐปรับตัวลง 1.3% ในเดือนก.ย.  ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภคการผลิตของภาคโรงงานลดลง 0.7% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนส.ค.
  • (-) สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค.สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านบวก 4 จุด สู่ระดับ 80 ในเดือนต.ค.  ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก โดยดัชนีความเชื่อมั่นต่อยอดขายในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้าต่างปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค.
  • (-) ดอลลาร์แข็งค่า หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสอง  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 93.9549 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9232 ฟรังก์ จากระดับ 0.9227 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2376 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2383 ดอลลาร์แคนาดา และเมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์ทรงตัวที่ระดับ 114.26 เยน  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1610 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1605 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3730 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3748 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7417 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7420 ดอลลาร์
  • (-) จีน ปฏิเสธข่าวทดสอบขีปนาวุธ-ยัน แค่ทดสอบยานอวกาศรัฐบาลจีนออกมาปฏิเสธรายงานข่าวว่า ตนเพิ่งทำการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงไป พร้อมยืนยันว่า เป็นการทดสอบยานอวกาศที่นำกลับมาใช้ใหม่เท่านั้น  กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ในวันจันทร์เพื่อปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ The Financial Times ที่ระบุว่า จีนทำการทดสอบระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่มีความสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา  จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวด้วยว่า เทคโนโลยียานอวกาศที่จีนทดสอบไปนั้น จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินโครงการและยังจะเป็นทางเลือกให้กับมนุษยชาติในการใช้ประโยชน์จากอวกาศได้อย่างสันติ ในราคาที่พอจ่ายได้ด้วย
  • (+/-) ดาวโจนส์ปิดลบ 36.15 จุด นลท.ผิดหวัง GDP จีน-จับตาผลประกอบการดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และเน็ตฟลิกซ์  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,258.61 จุด ลดลง 36.15 จุด หรือ -0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,486.46 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,021.81 จุด เพิ่มขึ้น 124.47 จุด หรือ +0.84%

- Advertisement -

Comments
Loading...