GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 19 ต.ค.64 by HGF

260

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำลดลง เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น Bond yield สหรัฐเพิ่มขึ้น

คืนนี้สหรัฐจะประกาศการอนุญาตก่อสร้างการเริ่มสร้างบ้านทองคำไม่ควรหลุดแนวรับ 1,750 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับลดลง เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น นอกจากนี้จีดีพีไตรมาส 3 ของจีนขยายตัวเพียง 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.2%ซึ่งเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนพลังงานภาวะติดขัดด้านอุปทานการแพร่ระบาดของโควิด-19 และรัฐบาลควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะกระทบต่อทางลบความต้องการทองคำเนื่องจากจีนเป็นประเทศที่ใช้ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมเมื่อวานหลังจากขายทองคำ 4.95 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 1.67ล้านยูนิต จากระดับ 1.73ล้านยูนิตในเดือนส.ค. การเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลงสู่ระดับ 1.61ล้านยูนิต จากระดับ 1.62ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
  • หลังจากที่ราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญ 1,800 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ ทำให้เกิดสัญญาณของการย่อตัวลงทางด้านเทคนิค อย่างไรก็ดีคาดการณ์ราคาทองคำจะปรับฐานเพื่อขึ้นได้ต่อทั้งนี้ราคาทองคำไม่ควรหลุดแนวรับ 1,750 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,772 ดอลลาร์และ 1,780 ดอลลาร์ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,760 ดอลลาร์และ 1,750 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,764.53-1.921,760/1,7501,772/1,780

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,95027,900/27,75028,050/28,150

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,110+5028,050/27,90028,200/28,320

แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคาทองคำ Spot1,760ดอลลาร์ (GF28,050 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,750 ดอลลาร์ (GF27,900 บาท)และขายทำกำไรที่ 1,780ดอลลาร์(GF28,320 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,767.40+2.501,763/1,7531,775/1,783

แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคา GOZ211,763ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,753ดอลลาร์และขายทำกำไรที่ 1,783ดอลลาร์

ค่าเงิน

- Advertisement -

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลงโดยคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ33.30-33.50 บาท/ดอลลาร์ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.16% หลังจากเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.193% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563โดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33.50บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลลาร์แข็งค่าหลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดขายบ้านมือสองดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ 93.9549 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ 2.6 ดอลล์บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ต.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.6 ดอลลาร์หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,765.7 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.5 เซนต์หรือ 0.36% ปิดที่ 23.264 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 16 เซนต์รับคาดการณ์ดีมานด์ฟื้นตัว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ต.ค.) ขานรับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์หรือ 0.2% ปิดที่ 82.44 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 53 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 84.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 36.15 จุดนลท.ผิดหวังGDP จีน-จับตาผลประกอบการ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 อย่างไรก็ดีดัชนีS&P500 และNasdaqปิดในแดนบวกเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสารขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและเน็ตฟลิกซ์ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,258.61 จุดลดลง 36.15 จุดหรือ -0.10%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,486.46 จุดเพิ่มขึ้น 15.09 จุดหรือ +0.34% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,021.81 จุดเพิ่มขึ้น 124.47 จุดหรือ +0.84%

อดีตผู้เชี่ยวชาญIMF ชี้จีนเดินเกมพลาดหลังกวาดล้างธุรกิจครั้งใหญ่

นายรากูรัมราชันอดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าจีนสร้างความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงจากการกวาดล้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตั้งแต่ธุรกิจเทคโนโลยีโรงเรียนกวดวิชาไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์    “ผมกังวลกับจีนมากในแง่ที่ว่าจีนกำลังทำลายพื้นฐานการเติบโตของตัวเองที่ยังคงส่งผลมาจนถึงตอนนี้” นายราชันให้สัมภาษณ์ในรายการSquawk Box Asia ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี “บางทีจีนจำเป็นต้องยุติการใช้แนวทางเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบเดิมและหันไปหาวิธีการใหม่แต่คำถามก็คือรัฐบาลพยายามเปลี่ยนไปใช้วิธีการใหม่เร็วเกินไปหรือไม่และส่งผลให้การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจลดน้อยลงตามมา”    นายราชันระบุว่าจีนพึ่งพาแรงงานราคาถูกและแหล่งเงินทุนเบี้ยต่ำเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจการที่จีนตัดสินใจไม่ดำเนินตามรูปแบบการเติบโตดังกล่าวจึงก่อให้เกิดความไม่แน่นอนนานัปการแม้จะมีความจำเป็นก็ตาม

อดีตปธ.FDA สหรัฐจี้ตรวจสอบไวรัสเดลตาพลัสหลังยอดติดเชื้ออังกฤษพุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน

นายแพทย์สก็อตต์ก็อตต์ลีบอดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเรียกร้องให้ดำเนินการวิจัยเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่กลายพันธุ์หรือที่เรียกว่าเดลตาพลัสเป็นการด่วนหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอังกฤษกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้งนายแพทย์ก็อตต์ลีบทวีตข้อความว่า “เราต้องเร่งวิจัยอย่างเร่งด่วนเพื่อหาสาเหตุว่าไวรัสเดลตาพลัสนั้นมีการกลายพันธุ์ได้มากขึ้นกว่าเดิมหรือหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายบางส่วนได้หรือไม่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าไวรัสชนิดนี้กลายพันธุ์ได้มากกว่าเดิมมากแต่เราควรดำเนินการให้เร็วขึ้นเพื่อดูลักษณะจำเพาะและการกลายพันธุ์อื่นๆเรามีเครื่องมืออยู่แล้ว”    การแสดงความเห็นของนายแพทย์ก็อตต์ลีบเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์แตะระดับ 800 รายตลอดช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นยอดที่สูงกว่าประเทศอื่นๆในยุโรปตะวันตกตามรายงานสถิติไวรัสโควิด-19 ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กเป็นผู้รวบรวมนับจนถึงปัจจุบันอังกฤษมียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 140,000 รายทั้งนี้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาพลัสมีการกลายพันธุ์ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์K417N นั้นได้สร้างความกังวลเนื่องจากมีการกลายพันธุ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นในไวรัสสายพันธุ์เบตาและมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อซ้ำสูง

จีนเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.เพิ่มเพียง 3.1% ต่ำกว่าคาดการณ์

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปีซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 5.3% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4.5%  ส่วนยอดค้าปลีกของจีนในเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 4.4% ซึ่งมากกว่าระดับเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 2.5% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 3.3%   รายงานของNBS ยังระบุด้วยว่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนปรับตัวขึ้น 7.3% ในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดือนม.ค.-ส.ค.ที่มีการขยายตัว 8.9% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7.9%   ทั้งนี้แม้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่อัตราการฟื้นตัวยังคงชะลอลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากจีนเผชิญกับปัญหาหลายด้านไม่ว่าจะเป็นวิกฤตพลังงานปัญหาคอขวดด้านอุปทานการระบาดของโควิด-19 ในบางพื้นที่รวมถึงการที่ทางการจีนสั่งควบคุมอุตสาหกรรมต่างๆตั้งแต่ภาคไอทีไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์

- Advertisement -

Comments
Loading...