GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 18 ม.ค.65 by YLG

279

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นเก็งกำไรระยะสั้น การเปิดสถานะซื้อพิจารณาบริเวณแนวรับ1,808-1,802ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,827-1,834ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

แนวรับ : 1,802 1,787 1,770  แนวต้าน : 1,834 1,849 1,863

จจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายในกรอบแคบเนื่องจากตลาดเงินตลาดทุนและตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการวานนี้ในวัน Martin Luther King  ทั้งนี้  ในช่วงต้นของการซื้อขายในตลาดเอเชีย  ราคาทองคำอ่อนตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,812.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคากลางสหรัฐ(เฟด)อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนมี.ค.  ก่อนที่นักลงทุนบางส่วนจะเริ่มกลับเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงขณะที่แรงซื้อส่วนหนึ่งมาจากผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนในช่วงก่อนที่เทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง สะท้อนจากค่าพรีเมียมทองคำในจีนที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ4-5ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเทียบกับค่าพรีเมียมที่ระดับ3.5-5ดอลลาร์ต่อออนซ์ในสัปดาห์ก่อนหน้า สถานการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน  สู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,823.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่เช้านี้  ราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ไม่ไกลจากระดับสูงสุดของวันทำการก่อนหน้า  อย่างไรก็ดี  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ1.8252% เป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเอาไว้  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีมติคงนโยบายการเงินตามเดิมแต่อาจจะปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ  รวมถึงติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index)และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยจาก NAHBของสหรัฐ

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค :

วันก่อนหน้าราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ หากวันนี้ราคาไม่หลุด 1,808-1,802ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน1,827-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาราคามีการแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง ดังนั้นควรปรับสถานะ การลงทุนตามการเคลื่อนไหวของราคา

กลยุทธ์การลงทุน :

แนะนำเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,808-1,802ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,827-1,834ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัวแต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) “สี จิ้นผิง” มั่นใจอนาคตเศรษฐกิจจีน หลัง GDP ปี 64 โตแกร่งสุดในรอบ 10 ปีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ประจำปี 2565 ซึ่งจัดขึ้นทางไกลในวันนี้ โดยปธน.สีได้แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในวันข้างหน้า หลังจากเศรษฐกิจขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว  “ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากต่อเศรษฐกิจในอนาคตของจีน หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2564 ของจีนขยายตัวราว 8% ซึ่งถือเป็นการบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านการเติบโตในระดับสูงและอัตราเงินเฟ้อที่ค่อนข้างต่ำ” ปธน.สีกล่าว
  • (+) แบงก์ชาติสิงคโปร์ออกกฎห้ามโปรโมตให้ประชาชนทั่วไปซื้อขายคริปโทฯธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้ออกแนวทางปฏิบัติในวันนี้ที่จะห้ามผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลไม่ให้โปรโมตการบริการของตนต่อสาธารณชนทั่วไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปกป้องนักลงทุนรายย่อยจากความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
  • (+) เกาหลีเหนือยืนยันยิงขีปนาวุธนำวิถี 2 ลูกวานนี้ อ้างยิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำสำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่า ขีปนาวุธ 2 ลูกที่เกาหลีเหนือยิงเมื่อวานนี้ เป็นขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี (Tactical Guided Missile) ซึ่งสามารถยิงเป้าหมายได้อย่างแม่นย “ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูกที่ถูกยิงจากพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้ สามารถยิงสู่เป้าหมายซึ่งเป็นเกาะแห่งหนึ่งในทะเลญี่ปุ่นได้อย่างแม่นยำ โดยวัตถุประสงค์ของการทดสอบยิงในครั้งนี้ คือการประเมินสมรรถนะของขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี รวมทั้งการประเมินความแม่นยำของระบบอาวุธชนิดนี้”  การรายงานของสำนักข่าว KCNA มีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นยืนยันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยสั้น (Short-Range Ballistic Missile) จำนวน 2 ลูกเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่ 4 ในปีนี้
  • (+) กบฏฮูตีก่อเหตุส่งโดรนโจมตีพื้นที่ชั้นในของ UAE ดับ 3 ราย บาดเจ็บ 6 รายสำนักข่าว WAM ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) รายงานในวันนี้ว่า กบฏฮูตีได้อ้างตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีพื้นที่ชั้นในของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งส่งผลให้รถบรรทุกน้ำมัน 3 คันเกิดเพลิงลุกไหม้และระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย  รายงานระบุว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวปากีสถาน 1 คน และชาวอินเดีย 2 คน
  • (-) ซีอีโอไฟเซอร์คาดชีวิตกลับสู่ปกติในฤดูใบไม้ผลิ หลังโควิดระบาดกว่า 2 ปีนายอัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของบริษัทไฟเซอร์เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เลอฟิกาโรของฝรั่งเศสว่า เขาเชื่อว่าผู้คนจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ในฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-มิ.ย.) หลังเผชิญกับโรคโควิด-19 ระบาดมานานกว่า 2 ปี   นายบูร์ลาระบุว่า ปริมาณการทดสอบหาเชื้อ, การฉีดวัคซีน และการรักษาใหม่ ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โลกฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 ระบาด ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนในสหรัฐไปแล้วราว 850,000 ราย
  • (-) ไฟเซอร์จ่อผนึกกำลังบ.ฝรั่งเศสเพิ่มกำลังการผลิตยาต้านโควิดไฟเซอร์ประกาศวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า ทางบริษัทเตรียมเพิ่มโรงงานผลิตยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ซึ่งเป็นยาต้านโควิด-19 ชนิดรับประทานเพิ่มอีก 1 แห่งในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนในฝรั่งเศสตลอด 5 ปีข้างหน้า ด้วยงบประมาณลงทุนกว่า 520 ล้านยูโร (594 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • (-) YouGov เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษปรับตัวลงเล็กน้อยในเดือนธ.ค.ผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอังกฤษปรับตัวลงในเดือนธ.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค YouGov/Cebrปรับตัวลง 0.5 จุด สู่ระดับ 110.0 จุดในเดือนธ.ค. แต่ยังอยู่เหนือระดับของปีก่อนหน้าซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19
  • (+/-) จับตาผลประชุม BOJ วันนี้ คาดปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ-ประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะมีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับต่ำ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือน  ในการประชุมครั้งนี้ BOJ มีกำหนดเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรายไตรมาส ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า BOJ อาจจะปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจากเดิมที่เคยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9% เนื่องจากต้นทุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นทั่วโลกได้ทำให้บริษัทเอกชนพากันปรับขึ้นราคาสินค้า
  • (+/-) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวานนี้ (17 ม.ค.)เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ 18 ม.ค.

- Advertisement -

Comments
Loading...