เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำได้รับแรงหนุนจากความกังวลเศรษฐกิจโลกจะถดถอย
ติดตามการแถลงการณ์ของประธานเฟดในช่วงเวลา 19.45 น.
ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,840-1,860 ดอลลาร์
- ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดที่ 1,857.48 ดอลลาร์ เนื่องจากราคาทองคำได้รับปัจจัยหนุนมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ภายหลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% จากที่เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนเม.ย. และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนพ.ค. โดย conference Board ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.4% จากที่ลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ติดตามการแถลงการณ์ของประธานเฟดในช่วงเวลา 19.45 น.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,840-1,860 ดอลลาร์ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,840 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,830 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,860 ดอลลาร์ และ 1,870 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 1,856.50 | +23.8 | 1,840/1,830 | 1,860/1,870 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
| Close | chg. | Support | Resistance |
| 30,350 | +100 | 30,450/30,300 | 30,800/30,900 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
| Close | chg | Support | Resistance |
| 30,800 | +300 | 30,620/30,540 | 30,950/31,050 |
สามารถเข้าซื้อบริเวณ 1,840 ดอลลาร์ (GF 30,620 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,830 ดอลลาร์ (GF 30,540 บาท)
- Advertisement -
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
| Close | chg | Support | Resistance |
| 1,853.50 | +22.30 | 1,842/1,832 | 1,862/1,872 |
สามารถเข้าซื้อราคา GOM22 ที่ 1,842 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,832 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องทะลุ 35 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า หลังเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่าระยะสั้นอาจแข็งค่าเล็กน้อย สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 35.20 บาท/ดอลลาร์
News
ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐแห่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายเฟด
เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารของสหรัฐเปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (Prime Lending Rate) 0.75% สู่ระดับ 4.75% โดยมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (16 มิ.ย.) เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ ทั้งนี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% โดยเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น เฟดมีภารกิจในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ในยุค 1970 เมื่อเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจนกระทั่งนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง เงินเฟ้อกลายมาเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง เนื่องจากราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ประชาชนไม่พอใจการทำงานของคณะบริหารภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยปัญหาเงินเฟ้อทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่สงครามในยูเครนเปิดฉากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาด และเพิ่มแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทานมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธนาคารทำกำไรจากส่วนต่างรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้และการจ่ายดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงกองทุนอื่น ๆ ดังนั้น ธนาคารมักจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายใต้ภาวะแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง
“ไบเดน” ต่อสายตรง” เซเลนสกี” ยืนยันส่งอาวุธช่วยยูเครนสู้ศึกรัสเซียเต็มที่
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะจัดหาอาวุธยุโธปกรณ์มูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครน ซึ่งรวมถึงระบบจรวดต่อต้านเรือรบ จรวดปืนใหญ่ ปืนครกและกระสุน ปธน.ไบเดนออกแถลงการณ์ดังกล่าวหลังจากการต่อสายตรงพูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเป็นเวลากว่า 41 นาที โดยปธน.ไบเดนยืนยันว่าสหรัฐจะให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงปืนใหญ่และอาวุธป้องกันชายฝั่ง รวมทั้งกระสุนปืนใหญ่และระบบยิงจรวดที่ล้ำสมัย นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังประกาศจะให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมอีก 225 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งรวมถึงการจัดหาน้ำดื่มที่ปลอดภัย ยารักษาโรคและการดูแลสุขภาพ อาหาร ที่พัก และเงินสำหรับครอบครัวเพื่อการซื้อสิ่งของจำเป็น กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน เปิดเผยว่า อาวุธชุดล่าสุดสำหรับยูเครนประกอบด้วยปืนครก 18 กระบอก พร้อมกระสุน 36,000 นัด ระบบยิงจรวดฮาร์พูนเพื่อป้องกันชายฝั่ง (HCDS) 2 เครื่อง จรวดปืนใหญ่ วิทยุสื่อสารที่ปลอดภัย อุปกรณ์สำหรับการมองเห็นในที่มืดหลายพันเครื่อง และเงินทุนสำหรับการฝึกอบรม
“พาวเวล” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% เดือนหน้า
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. หลังจากที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 0.75% ในการประชุมครั้งล่าสุด คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537 “เมื่อพิจารณาจากมุมมองในขณะนี้ ผมคิดว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค. ซึ่งเรามองว่าเป็นการปรับขึ้นในระดับที่เหมาะสม ส่วนการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ แน่นอนว่าเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ แต่ผมไม่คิดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 0.75% จะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเฟด” นายพาวเวลกล่าว ในการประชุมครั้งนี้ เฟดเปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%