GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 16 ธ.ค.65 by YLG

666

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

บริเวณ 1,794-1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ยืนไม่ได้ แนะนำเปิดสถานะขาย เพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว ทั้งนี้ สามารถทยอยแบ่งปิดสถานะขายทำกำไร หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,769-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,765 1,747 1,729  แนวต้าน : 1,808 1,824 1,842

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลง 30.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า และจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่จุดสูงสุดจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างยั่งยืน โดยไม่รีบร้อนผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนเวลาอันควร สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 200 วันซึ่งกระตุ้นแรงขายทางเทคนิคเพิ่ม จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคำทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,774.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำฟื้นตัวในช่วงสั้นในช่วงตลาดสหรัฐ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่วนใหญ่ออกมา “ต่ำกว่าคาด” ไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีกที่ดิ่งลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน, การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่ลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%, Empire State Index ที่ดิ่งลงสู่ระดับ -11.2 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -0.5 และดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -13.8 ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -10.0

- Advertisement -

สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อพันธบัตรระยะยาวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจนเป็นปัจจัยหนุนทอง แต่เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเช่นกัน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สกัดช่วงบวกและกลับมากดดันราคาทองคำในที่สุด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น +2.32 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

หลังจากราคาทิ้งตัวลง หากรักษาระดับได้ทำให้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,794-1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ แสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นจำกัด ราคามีโอกาสปรับตัวลงไปทดสอบ แนวรับโซน 1,769-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,765 ระดับต่ำสุดของเดือนธ.ค.)

กลยุทธ์การลงทุน

เน้นการทำกำไรระยะสั้น โดยแนะนำเปิดสถานะขายบริเวณ 1,794-1,808 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาผ่าน 1,824 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาแบ่งปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับ 1,769-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนไม่ได้ถือสถานะขายต่อ

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) สหรัฐเผยยอดค้าปลีกดิ่งลงมากกว่าคาดในเดือนพ.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลงเพียง 0.1% หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค.
  • (+) เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากปรับตัวลง 0.1% ในเดือนต.ค.
  • (+) เฟดนิวยอร์คเผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนธ.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ต่ำกว่าคาดในวันนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ -11.2 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -0.5 จากระดับ +4.5 ในเดือนพ.ย.
  • (+) เฟดฟิลาเดลเฟียเผยดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาดในเดือนธ.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -13.8 ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -10.0 จากระดับ -19.4 ในเดือนพ.ย.
  • (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 764.13 จุด กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยฉุดศก.ถดถอย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 700 จุดในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,202.22 จุด ร่วงลง 764.13 จุด หรือ -2.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,895.75 จุด ลดลง 99.57 จุด หรือ -2.49% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,810.53 จุด ดิ่งลง 360.36 จุด หรือ -3.23%
  • (-) ดอลล์แข็งค่า หลังเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.76% แตะที่ระดับ 104.5570 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 137.73 เยน จากระดับ 135.34 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9282 ฟรังก์ จากระดับ 0.9244 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3650 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3551 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3259 จากระดับ 10.1902 โครนาสวีเดน ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0634 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0669 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2190 ดอลลาร์
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 20,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย

- Advertisement -

Comments
Loading...