GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 เม.ย.65 by YLG

684

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ       เปิดสถานะขาย 1,985-2,002

จุดทำกำไร     ซื้อคืนเพื่อทำกำไร $1,962-1,954

ตัดขาดทุน     ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $2,002

แนวรับ : 1,954 1,939 1,923  แนวต้าน : 1,985 2,002 2,021

สรุป

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดในยูเครน หลังนายดมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซีย กล่าวเตือนว่า รัสเซียจะเสริมกำลังทางบก กองทัพเรือ และทางอากาศ ซึ่งรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ในทะเลบอลติกเพื่อสร้างสมดุลทางทหาร หากสวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมกับ NATO ซึ่งส่งผลให้ราคาทดสอบระดับสูงบริเวณ 1,980.23 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้

โดยได้รับแรงกดดันจากผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่มีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ย พร้อมยุติการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในไตรมาส 3 เพื่อจะปูทางสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

อย่างไรก็ดี ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นเมื่อใด ทำให้ตลาดมองว่าผลการประชุม ECB เป็นไปในเชิง Hawkish น้อยกว่าคาด ขณะที่เทรดเดอร์ปรับ “ลด” คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในปีนี้ สะท้อนตลาดเงินที่ price in การคาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 60 bps ภายในเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 70 bps ในช่วงก่อนการประชุม ECB

- Advertisement -

ปัจจัยดังกล่าวกดดันยูโรให้อ่อนค่าจนส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ นั่นทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมาทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,961.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับวันนี้สำหรับวันนี้ตลาดเงิน ตลาดทุนรวมถึงตลาดทองคำใน ฮ่องกง, สิงคโปร์, ออสเตรเลีย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ทำให้ปริมาณการซื้อขายตลอดวันจะเบาบางกว่าปกติ แต่เพราะหน่วยงานราชการสหรัฐไม่ได้ปิดทำการตาม ทำให้คืนนี้ยังมีการเปิดเผยตัวเลขสำคัญในตลาดแรงงานของสหรัฐ ได้แก่ ดัชนี Empire State Index, อัตราการใช้กำลังการผลิต และการผลิตภาคอุตสาหกรรม

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจสูงกว่าคาดในเดือนก.พ. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจพุ่งขึ้น 1.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนม.ค. • (+)สหรัฐเผยยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาดในเดือนมี.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%

• (+) สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 18,000 ราย สู่ระดับ 185,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 171,000 ราย

• (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 113.36 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดหุ้นเติบโตร่วง ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันพฤหัสบดี (14 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง และนักลงทุนยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้น รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาไร้ทิศทาง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,451.23 จุด ลดลง 113.36 จุด หรือ -0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,392.59 จุด ลดลง 54.00 จุด หรือ -1.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,351.08 จุด ลดลง 292.51 จุด หรือ -2.14%

• (-) สหรัฐเผยดัชนีราคานำเข้าพุ่งเกินคาดในเดือนมี.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยพุ่งขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2554 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าดีดตัวขึ้น 2.3% ในเดือนมี.ค.

• (-) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นในเดือนเม.ย. สวนทางคาดการณ์ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 65.7 ในเดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 59.0 จากระดับ 59.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554

• (-) ดอลล์แข็งค่า ขณะยูโรอ่อนหลัง ECB ตรึงดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (14 เม.ย.) โดยยูโรอ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง และระบุว่าจะดำเนินการตามแผนที่จะลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.45% แตะที่ 100.3200 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 125.97 เยน จากระดับ 125.60 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9425 ฟรังก์ จากระดับ 0.9341 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2568 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0837 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0889 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าแตะที่ระดับ 1.3073 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3110 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7417 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7447 ดอลลาร์สหรัฐ

• (+/-) ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ส่งสัญญาณยุติ QE เร็วกว่าคาด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทั้งนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ขณะเดียวกัน ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยุติการซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) ในไตรมาส 3 ซึ่งเร็วกว่าที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะปูทางสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หลังจากพุ่งขึ้น 7.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าเป้าหมายของ ECB ที่ระดับ 2%

- Advertisement -

Comments
Loading...