GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 มี.ค.65 by YLG

773

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,958-1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถเปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น และรอซื้อคืนหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดบริเวณแนวรับ1,939-1,929 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าหลุดให้รอซื้อบริเวณแนวรับถัดไป

แนวรับ : 1,929 1,913 1,897  แนวต้าน : 1,958 1,974 1,989

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงต่ออีก 34.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตลอดทั้งวันราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยได้รับแรงกดดันจาก 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ (1.) ความหวังว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีความคืบหน้า หลังจากผู้แทนการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายต่างออกมาแสดงความเห็นในเชิงบวกว่าอาจบรรลุผลลัพธ์บางอย่างภายในเวลาไม่กี่วันข้างหน้านี้ แม้วานนี้การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4จะเสร็จสิ้นลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงเดินหน้าเจรจากันต่อไป และจะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันนี้ ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ทั้งทองคำ ดอลลาร์สหรัฐ รวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (2.) การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018ในการประชุมนโยบายการเงินที่กำลังจะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของคืนวันพุธนี้ และเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากเฟดให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อมากกว่าความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ2.1472% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2019 จนเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงทำระดับต่ำสุดต่ำกว่าวันทำการก่อนหน้าถึง 5 วันทำการติดต่อกัน ล่าสุดเช้านี้ปรับตัวลดลงทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,939.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index)ของสหรัฐ

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค

ระยะสั้นราคาพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ บริเวณ 1,950-1,958 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากราคาขยับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาหรือหากราคาไม่สามารถยืนเหนือระดับบริเวณ1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาบริเวณแนวรับโซน1,939-1,929 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยหาจังหวะเปิดสถานะขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน 1,958-1,974ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน 1,974ดอลลาร์ต่อออนซ์) และรอซื้อปิดสถานะขายหากราคาลงมาย้ำและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,939-1,929ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแต่หากราคาหลุดให้ชะลอการปิดสถานะขายออกไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) แหล่งข่าวเผย “ไบเดน” อาจต้องบินด่วนไปยุโรปหารือพันธมิตรรับมือรัสเซีย  แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจต้องเดินทางเยือนยุโรปเพื่อหารือพันธมิตรเกี่ยวกับการรับมือภัยคุกคามจากรัสเซีย ท่ามกลางการโจมตีอย่างหนักต่อยูเครน  อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการเดินทางดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ขณะที่ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น
  • (+) ผู้นำยูเครนเตรียมแถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐพุธนี้  นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เตรียมแถลงผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ต่อสภาคองเกรสในวันพุธนี้ ท่ามกลางการโจมตีอย่างหนักของกองกำลังรัสเซียต่อยูเครนในขณะนี้ 
  • (+) อินเดียเผยเงินเฟ้อพุ่งเกินคาดทะลุ 6% ในเดือนก.พ.  กระทรวงสถิติของอินเดียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.07% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี
  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบยูโร จับตาประชุมเฟด-ข้อมูลศก.สหรัฐ  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (14 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.พ.  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.12% แตะที่ 99.0010 เมื่อคืนนี้  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0963 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0910 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3019 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3037 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7195 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7296 ดอลลาร์สหรัฐ  ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 118.09 เยน จากระดับ 117.34 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9377 ฟรังก์ จากระดับ 0.9347 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2824 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2726 ดอลลาร์แคนาดา
  • (+) อียู เผยแผนออกมาตรการลงโทษรอบใหม่ต่อรัสเซีย  สหภาพยุโรป (อียู) กำลังเตรียมดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจรอบใหม่ต่อรัสเซีย ซึ่งยังคงเดินหน้าโจมตีจุดต่างๆ ของยูเครนอย่างต่อเนื่อง  โจเซพ บอร์เรลล์ หัวหน้าทีมที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของอียู ยืนยันในวันจันทร์ว่า ทางกลุ่มมีแผนจะดำเนินมาตรการลงโทษรอบที่ 4 ต่อรัสเซีย สำหรับการส่งกองทัพบุกยูเครน
  • (+) ไต้หวันรายงาน เครื่องบินรบจีนรุกน่านฟ้าตนอีกครั้ง  กองทัพอากาศไต้หวันตรวจพบเครื่องบินรบของจีนจำนวน 13 ลำรุกเข้ามาในเขตน่านฟ้าของตนอีกครั้งในวันจันทร์ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์  กระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่า กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินรบของตนออกไปเตือนจีน พร้อมสั่งเตรียมระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานให้พร้อมยิง หลังตรวจพบว่า มีเครื่องบินรบรุ่น J-10 จำนวน 7 ลำ และรุ่น J-16 จำนวน 5 ลำ รวมทั้งรุ่น Y-8 อีก 1 ลำบินเข้ามาในเขตป้องกันทางอากาศ( air defense zone) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน
  • (-) พักยกชั่วคราว! “รัสเซีย-ยูเครน” เจรจาไม่ได้ข้อยุติ เริ่มใหม่พรุ่งนี้  นายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างยูเครนและรัสเซียที่จัดขึ้นในวันนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายจะพักการเจรจาชั่วคราว ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้  “เราได้พักการเจรจาชั่วคราว ‘ในแง่เทคนิค’ จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ โดยเราจะทำงานต่อไปในกลุ่มย่อย” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
  • (-) บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะลุ 2.10% ทำนิวไฮกว่า 2 ปี  อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุระดับ 2.10% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2562 ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนในวันนี้ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 มี.ค.  ณ เวลา 22.50 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.105% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.457%
  • (+/-) ดาวโจนส์บวกเล็กน้อย,Nasdaq ร่วงกว่า 2% จากแรงขายหุ้นเทคโนฯ  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (14 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,945.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.05 จุด หรือ +0.003%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,173.11 จุด ลดลง 31.20 จุด หรือ -0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,581.22 จุด ลดลง 262.59 จุด หรือ -2.04%

- Advertisement -

Comments
Loading...