GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 15 พ.ย.64 by YLG

302

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบราคาในทิศทางค่อยๆปรับตัวขึ้น เปิดสถานะซื้อหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,849-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ให้ทยอยขายทำกำไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,868-1,876 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากผ่านได้ถือสถานะซื้อต่อ

แนวรับ : 1,849 1,833 1,823  แนวต้าน : 1,876 1,889 1,900

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.54ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ในระหว่างวันราคาทองคำจะได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร  และดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ16 เดือนที่ 95.266  ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ  1,844.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดี  ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อ Buy the dip และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ  ประกอบกับดัชนีดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ที่ลดลงสู่ระดับ 10.44 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.46 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขการลาออกจากงานโดยสมัครใจพุ่งขึ้น 164,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 4.43 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ดิ่งลงสู่ระดับ 66.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2011 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 72.5  เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทำให้มาตรฐานการครองชีพของครัวเรือนลดลง ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน  จนกระทั่งปิดตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาบริเวณ 1,865.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันทำการที่ 7 ติดต่อกันพร้อมกับปิดตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการทะยานขึ้น +2.64% ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 6 เดือนด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index)ของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค :

หากราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,849-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีแรงดีดกลับ เบื้องต้นราคามีการเคลื่อนไหวแกว่งตัวในทิศทางค่อยๆปรับตัวขึ้น อาจต้องระวังแรงขายหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,868-1,876 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ หากยังไม่มีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น แต่หากผ่านได้ประเมินแนวต้านที่ 1,889 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ 1,849-1,833ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ขณะที่การขายทำกำไรอาจพิจารณาในโซน 1,868-1,876ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้ชะลอการปิดสถานะซื้อไปที่แนวต้านถัดไป

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) สหรัฐเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานลดลง ขณะตัวเลขลาออกจากงานพุ่งเป็นประวัติการณ์สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 10.44 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.46 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.63 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. 
  • (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งต่ำสุด 10 ปีในเดือนพ.ย.ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 66.8 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2554 จากระดับ 72.8 ในเดือนก.ย.   นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 72.5  ดัชนีได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
  • (+) สหรัฐปฎิเสธข้อเสนอ “อินเทล” วางแผนเพิ่มการผลิตชิปในจีนแหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ปฏิเสธแผนการของบริษัทอินเทลที่จะเพิ่มการผลิตชิปในประเทศจีน เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคง ซึ่งก็ได้ทำให้การเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนชิปของสหรัฐประสบกับความล้มเหลวทั้งนี้ อินเทลซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้เสนอที่จะใช้โรงงานที่เมืองเฉิงตูในประเทศจีนเพื่อผลิตซิลิคอนเวเฟอร์ โดยการผลิตดังกล่าวอาจเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2565 ซึ่งจะช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับอุปทานชิปที่ตึงตัวทั่วโลก ขณะเดียวกัน อินเทลก็ได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อเพิ่มการวิจัยและการผลิตในสหรัฐด้วยอย่างไรก็ตาม เมื่ออินเทลเสนอแผนดังกล่าวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้คัดค้านอย่างมากกับแผนการดังกล่าว
  • (+) จีนวอนธุรกิจสหรัฐช่วยล็อบบี้-คัดค้านร่างกฎหมายในสภาคองเกรสแหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ส่งจดหมายเรียกร้องให้ผู้บริหาร, บริษัท และกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ  ของสหรัฐ ดำเนินการเพื่อคัดค้านการออกกฎหมายที่เกี่ยวกับจีนในสภาคองเกรสสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าของสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันได้กดดันบรรดาผู้บริหารบริษัทสหรัฐให้เรียกร้องสมาชิกสภาคองเกรสทำการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกร่างกฎหมายใด ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่จีนได้เตือนบริษัทต่าง ๆ ว่า พวกเขาเสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดหรือรายได้ในจีน หากมีการบังคับใช้ร่างกฎหมายเหล่านั้น
  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า ผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.06% แตะที่ 95.1237 เมื่อคืนนี้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.95 เยน จากระดับ 114.09 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9208 ฟรังก์ จากระดับ 0.9219 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2551 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2579 ดอลลาร์แคนาดายูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1443 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1446 ดอลลาร์, ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3417 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3365 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.7331 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7293 ดอลลาร์สหรัฐ
  • (-) ดาวโจนส์ปิดบวก 179.08 จุด แรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีหนุนตลาดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (12 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และนักลงทุนขานรับแผนปรับโครงสร้างของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) แม้ผิดหวังกับการเปิดข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐก็ตาม  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,100.31 จุด เพิ่มขึ้น 179.08 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,682.85 จุด เพิ่มขึ้น 33.58 จุด หรือ +0.72%  และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,860.96 จุด เพิ่มขึ้น 156.68 จุด หรือ +1.00%
  • (+/-) ทำเนียบขาวยืนยัน “ไบเดน-สี จิ้นผิง” จัดประชุมทางไกลวันจันทร์หน้าทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะจัดการประชุมทางไกลกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันจันทร์ที่ 15 พ.ย.ในเวลากลางคืนตามเวลาสหรัฐ   “ผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบต่อการแข่งขันระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และท่านประธานาธิบดีไบเดนจะแสดงออกอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความกังวลของเราในเรื่องต่างๆที่มีต่อจีน” นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว  นอกจากนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ปธน.สี จิ้นผิงจะเชิญปธน.ไบเดนเดินทางเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในเดือนก.พ.2565

- Advertisement -

Comments
Loading...