GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 14 ก.พ.65 by YLG

247

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยเสี่ยงเปิดสถานะซื้อในโซน 1,849-1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคา1,829ดอลลาร์ต่อออนซ์) ปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านโซน 1,865-1,878 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,844 1,829 1,811  แนวต้าน : 1,865 1,878 1,894

จจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทะยานขึ้น 31.95ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงต้นการซื้อขายทองคำปรับตัวลดลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,821.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ก่อนที่ราคาทองคำจะทะยานขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจาก 3 ประเด็น ได้แก่ (1.) ความวิตกว่ารัสเซียจะบุกยูเครน หลังรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียพร้อมโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครนภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้สหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในสถานทูตสหรัฐในกรุงเคียฟออกจากยูเครนทันที ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง ส่วนหนึ่งเกิดแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำโดยตรงรวมถึงแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งฉุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาบสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.9112% ในวันศุกร์จนหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม (2.) การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐจากม.มิชิแกนที่ปรับตัวลงเกินคาดสู่ระดับ 61.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2011 และ (3.) แรงซื้อตาม(Follow Buy)และซื้อตัดขาดทุนสถานะขาย (Short squeeze)หลังจากราคาทะยานขึ้นทะลุระดับสูงสุดในเดือนก่อนหน้า พร้อม Breakout กรอบบนของ Triangle ในระยะกลางซึ่งตรงกับบริเวณ 1,841-1,853 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยที่กล่าวมาส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นกว่า 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวันสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,865.19 ดอลลาร์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม +3.48 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์

จจัยทางเทคนิค :

หากราคาอ่อนตัวลงไม่ต่ำกว่าโซน 1,849-1,844 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะทำให้ราคายังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะสั้น ราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบเพื่อทำการสร้างฐานราคา เบื้องต้นประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,865ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านสำคัญที่ 1,878 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

- Advertisement -

เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ โดยใช้แนวรับบริเวณ 1,849-1,844ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนหากหลุด1,829ดอลลาร์ต่อออนซ์และสำหรับนักลงทุนที่ถือสถานะซื้ออยู่ แนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,865-1,878ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

• (+) ไบเดน-ปูตินคว้าน้ำเหลวกรณียูเครน หลังโทรหากันเมื่อวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้โทรหากันเมื่อวานนี้ แต่ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยูเครน เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวหลังผู้นำทั้งสองประเทศโทรหากันว่า “สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระดับรากฐาน” รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองได้คุยกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยปธน.ไบเดนได้เตือนปธน.ปูตินว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรจะคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง หากรัสเซียใช้กำลังทางทหารต่อไป

• (+) สหรัฐเตือนรัสเซียอาจเริ่มบุกยูเครนก่อนจีนปิดฉากกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตือนเมื่อวันศุกร์ (11 ก.พ.) ว่า รัสเซียอาจจะเริ่มบุกยูเครนวันใดวันหนึ่งในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพจะปิดฉากลงในวันที่ 20 ก.พ.นี้ นายซัลลิแวนเปิดเผยในการแถลงข่าวว่า “รัสเซียอาจเริ่มบุกยูเครนในเวลาใด ๆ ก็ตาม หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินสั่งการ” ขณะที่รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ระบุว่าปธน.ปูตินได้ทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายแล้ว

• (+) “ไบเดน” เรียกร้องชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น “ชาวอเมริกันควรเดินทางออกจากยูเครนในขณะนี้ เรากำลังเผชิญหน้ากับหนึ่งในกองทัพใหญ่ที่สุดในโลก และสถานการณ์อาจพลิกผันได้อย่างรวดเร็ว” ปธน.ไบเดนกล่าว

• (+) “บลิงเกน” เตือนรัสเซียพร้อมโจมตียูเครน แม้ในระหว่างแข่งโอลิมปิกฤดูหนาว นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัสเซียพร้อมโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันรีบเดินทางออกจากยูเครน “เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ว่าการโจมตีอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งรวมทั้งในระหว่างที่กำลังมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก” นายบลิงเกนกล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนออสเตรเลียวันนี้

• (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงต่ำสุดรอบกว่า 10 ปี ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 61.7 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 จากระดับ 67.2 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 67.5

• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 503.53 จุด วิตกความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนฉุดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันศุกร์ (11 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังจากที่มีความกังวลอยู่แล้วเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,738.06 จุด ลดลง 503.53 จุด หรือ -1.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,418.64 จุด ลดลง 85.44 จุด หรือ -1.90% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,791.15 จุด ลดลง 394.49 จุด หรือ -2.78%

• (-) ดอลล์แข็งค่า ตลาดวิตกรัสเซียบุกยูเครน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (11 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.56% แตะที่ 96.0860 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2739 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2717 ดอลลาร์แคนาดา, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 115.2740 เยน จากระดับ 115.9210 เยน และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9250 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9257 ฟรังก์สวิส ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1340 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1452 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3574 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.7126 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7170 ดอลลาร์สหรัฐ

• (-) นักวิเคราะห์แห่ปรับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อสูงสุด 40 ปี นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างพากันปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี โกลด์แมน แซคส์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 ครั้งในปีนี้ โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25% จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้ง หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ หมายความว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทั้ง 7 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค. การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดพุ่งแตะ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.00-0.25%

- Advertisement -

Comments
Loading...