GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 12 พ.ค.65 by YLG

784

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

แนะนำซื้อขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยบริเวณแนวต้านโซน 1,865-1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้แนะนำแบ่งทองคำออกขายเพื่อรอซื้อในโซนแนวรับ 1,840-1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,840 1,823 1,805  แนวต้าน : 1,872 1,889 1,909

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำร่วงลงก่อนในช่วงต้นของการซื้อขายในตลาดเอเชียทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนบริเวณ 1,831.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาจะเริ่มฟื้นตัวจากแรงซื้อ Buy the dip และแรงซื้อทางเทคนิคหลังจากเกิดสัญญาณที่บ่งชี้ว่าแรงขายชะลอตัวลง ประกอบกับดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพักตัวลงจนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นเพิ่ม

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำร่วงลงแรงในทันทีที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.0% ซึ่งสะท้อนว่าเงินเฟ้อในเดือนเม.ย.ยังอยู่ในระดับสูง จนเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีดอลลาร์ดีดขึ้นในทันทีแตะระดับสูงสุดที่ 104.105 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีก็ดีดขึ้นทดสอบระดับสูงสุดเหนือ 3% เช่นกัน แต่ทั้งดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้

เนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าตัวเลขดังกล่าวไม่น่าจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)หันไปใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าวมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน ตอกย้ำมุมมองดังกล่าวด้วยถ้อยแถลงของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ที่เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ยังคง “ร้อนแรง” แต่เขาไม่ต้องการให้เฟดเปลี่ยนมาใช้การขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps พร้อมระบุว่าแผนปัจจุบันของเฟด ได้แก่ การขึ้นดอกเบี้ย 50 bps คือ “เกณฑ์มาตรฐานที่ดีสำหรับตอนนี้” นั่นทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลงอีก -2.03 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค

หลังจากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,865-1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำปรับตัวลงไม่มากจะทำให้ยังแกว่งตัวในกรอบเดิม ซึ่งประเมินแนวรับระยะสั้นในโซน 1,840-1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน

- Advertisement -

แนะนำเปิดสถานะขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,865-1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสถานะขายตัดขาดทุนหากราคาผ่าน 1,872 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอเข้าซื้อเก็งกำไรหากการอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซน 1,840-1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) เลขาฯ UN คาดเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า เขาไม่คาดว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ “สงครามนี้จะต้องมีวันสิ้นสุดลง และจะต้องมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้น ซึ่งผมไม่คาดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ แต่ผมสามารถบอกได้ว่าเราจะไม่มีวันยอมแพ้” นายกูเตอร์เรสกล่าว

• (+) จีนเตือนผู้อำนวยการ WHO หลังวิพากษ์นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) หลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นที่ไม่รับผิดชอบ หลังจากที่เขาได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายควบคุมโควิด-19 ของจีน นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนเป็นประเทศหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการใช้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ซึ่งรวมทั้งการใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองที่มีการแพร่ระบาด

• (+) น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $5.95 รับข่าวยูเครนปิดทางส่งก๊าซรัสเซียไปยุโรป สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 6% ยืนเหนือระดับ 105 ดอลลาร์ในวันพุธ (11 พ.ค.) หลังมีรายงานว่า การขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปโดยผ่านทางยูเครนนั้น มีปริมาณลดลง เนื่องจากยูเครนปิดเส้นทางหลักในการลำเลียงขนส่ง โดยนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.05 ดอลลาร์ หรือ 4.9% ปิดที่ 107.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

• (+) บิตคอยน์ร่วงต่ำกว่า $30,000 ใกล้หลุด 1,000,000 บาท ผวาเฟดขึ้นดบ.แรง หลังเงินเฟ้อพุ่ง บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์ ใกล้หลุด 1,000,000 บาทในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด แม้ต่ำกว่าเดือนมี.ค. แต่ก็ยังคงใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

• (+) ดอลล์อ่อนค่าเล็กน้อย นลท.ซึมซับข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (11 พ.ค.) หลังจากจากนักลงทุนซึมซับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 103.8460 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 129.76 เยน จากระดับ 130.39 เยน

และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9930 ฟรังก์ จากระดับ 0.9953 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2986 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3022 ดอลลาร์แคนาดา ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0533 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0534 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2270 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2318 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6948 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6941 ดอลลาร์

• (+) ดาวโจนส์ปิดร่วง 326.63 จุด กังวลเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันพุธ (11 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 3% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,834.11 จุด ร่วงลง 326.63 จุด หรือ -1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,935.18 จุด ลดลง 65.87 จุด หรือ -1.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,364.24 จุด ร่วงลง 373.44 จุด หรือ -3.18%

• (+) แมงเม่า 40% กระเป๋าฉีก หลังบิตคอยน์หลุด $30,000 จากที่ทำนิวไฮ $69,000 ข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่า นักลงทุนราว 40% ที่ถือครองบิตคอยน์ได้ประสบภาวะขาดทุน ขณะที่บิตคอยน์มีมูลค่าดิ่งลงเกือบ 55% จากที่เคยพุ่งแตะ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อพิจารณาเฉพาะเดือนเม.ย. พบว่า วอลเล็ตบิตคอยน์ราว 15.5% ประสบภาวะขาดทุน หลังบิตคอยน์ดิ่งลงสู่ระดับ 31,000 ดอลลาร์ โดยปรับตัวลงตามดัชนี Nasdaq และสวนทางความเชื่อที่ว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

• (-) สหรัฐเผยดัชนี CPI พุ่ง 8.3% สูงกว่าคาดการณ์ ใกล้นิวไฮ 40 ปี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524 นอกจากนี้ ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% แต่ต่ำกว่าระดับ 1.2% ในเดือนมี.ค. ขณะเดียวกัน ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.0% แต่ต่ำกว่าระดับ 6.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2525 เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.4% และสูงกว่าระดับ 0.3% ในเดือนมี.ค.

- Advertisement -

Comments
Loading...