GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 1 ธ.ค.65 by YLG

450

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ

เสี่ยงซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,759-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากราคาไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,786-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,759 1,744 1,729  แนวต้าน : 1,786 1,802 1,819

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงทดสอบระดับต่ำสุดของวันบริเวณ 1,745.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด อาทิ ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า GDP ขยายตัวเกินคาดที่ 2.9% และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ 10.24 ล้านตำแหน่ง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,745.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นแรง โดยปัจจัยพื้นฐานหลักที่หนุนทองคำ คือ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดจะ “ชะลอ” การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สะท้อนจากedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 77% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 bps และนักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bpsในการประชุมเดือนธ.ค. จนเป็นปัจจัยกดดันดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐให้ร่วงลงจนส่งผลหนุนทองคำให้ทะยานขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 1,769.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะทะยานขึ้นต่อในช่วงเช้าวันนี้ของตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผย Core PCE, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค

แม้ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นแรงขายค่อนข้างจำกัด แต่ระยะสั้นหากพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,786-1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าว (1,786 ระดับสูงสุดของเดือนพ.ย.)ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่ 1,759-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน

รอราคาอ่อนตัวลงหากสามารถยืนเหนือ 1,759-1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ สามารถเปิดสถานะซื้อ โดยตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,744 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการขายทำกำไรอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่ 1,802 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน

  • (+) ADP เผยการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย.  ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
  • (+) ดอลลาร์อ่อนค่า หลังพาวเวลส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ ( พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.  ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.82% แตะที่ 105.9470  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 137.99 เยน จากระดับ 138.65 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9455 ฟรังก์ จากระดับ 0.9537 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3443 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3585 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.5042 โครนา จากระดับ 10.5868 โครนา  ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0414 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0331 ดอลลาร์
  • (-) สหรัฐเผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานสอดคล้องคาดการณ์ในเดือนต.ค.  สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • (-) สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยลดลง 4.6% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีลดลง 5.0%
  • (-) สหรัฐเผย GDP +2.9% ใน Q3/65 สูงกว่าคาดการณ์  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%
  • (+/-) “พาวเวล” ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค. ขณะเตือนภารกิจสู้เงินเฟ้อยังไม่จบ  นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลังที่สถาบันบรู้กกิงส์ในวันพุธ (30 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันก็เตือนว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้นยังอีกยาวไกล และยังมีคำถามสำคัญหลายอย่างที่เฟดยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งรวมถึงคำถามที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องถูกปรับขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดที่เท่าใดและใช้ระยะเวลานาน

- Advertisement -

Comments
Loading...