GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 1 ก.ย.64 by HGF

224

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงหนุนราคาทองคำ

คืนนี้ติดตามการจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐ

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,823 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปรับเพิ่มขึ้น  เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าภายหลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทั้งนี้นักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 1.46 ตัน
  • คืนนี้เวลา19.15 น. สหรัฐจะประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนส.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 640,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 330,000 ตำแหน่ง ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค. โดยISM ตลาดคาดจะลดลงเป็น 58.5 จากเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 59.5
  • แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,800-1,823 ดอลลาร์ ทั้งนี้คาดราคาทองคำจะปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,833ดอลลาร์ได้ในระยะถัดไป  ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวต้าน 1,823 ดอลลาร์และ 1,833 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,790 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,813.40+3.701,800/1,7901,823/1,833

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,750-15027,450/27,30027,800/27,950

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,780-3027,620/27,46027,940/28,080

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,800ดอลลาร์ (GF27,620บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,790 ดอลลาร์(GF27,460บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,816.00+1.101,801/1,7911,824/1,831

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,801ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,791 ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้แข็งค่าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศดีขึ้นต่อเนื่องนอกจากนี้เงินบาทแข็งค่าตามทิศทางในภูมิภาคซึ่งนักลงทุนรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.10 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.30บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) หลังจากConference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.03% แตะที่ 92.6337 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $5.9 นลท.ซื้อทองคำหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งหนัก

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ไทม์ไลน์ในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)     ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์หรือ 0.33% ปิดที่ 1,818.1 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ 24.01 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 71 เซนต์กังวลโอเปกพลัสเพิ่มการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันนี้นอกจากนี้การชะลอตัวของภาคการผลิตจีนยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศจีนสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 71 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 68.50 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 42 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 72.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 39.11 จุดจากแรงขายหุ้นพลังงาน-หุ้นเทคโนฯ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (31 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งรวมถึงหุ้นZoom Video Communications ที่ทรุดตัวลงกว่า 16% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,360.73 จุดลดลง 39.11 จุดหรือ -0.11% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,522.68 จุดลดลง 6.11 จุดหรือ -0.13% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,259.24 จุดลดลง 6.65 จุดหรือ -0.04%

นักวิเคราะห์คาดตัวเลขจ้างงานสหรัฐชะลอตัวเดือนส.ค. เหตุไวรัสเดลตาระบาดหนัก

นางไดแอนสวองค์หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทแกรนท์ธอร์นตันซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง675,000ตำแหน่งโดยชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งถึง943,000ตำแหน่งซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตานางสวองค์กล่าวว่าแม้ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.จะได้ปัจจัยหนุนจากการจ้างงานใหม่ในภาคการศึกษาของรัฐบาลเนื่องจากโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเริ่มกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งแต่ก็มีโรงเรียบางแห่งต้องกักตัวบุคลากรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และมีโรงเรียนอีกส่วนหนึ่งที่ต้องกลับไปเรียนออนไลน์อีกครั้งหลังเปิดทำการได้ไม่นาน   “จำนวนผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตานั้นคาดว่าจะส่งผลให้การจ้างงานในธุรกิจสันทนาการและที่พักอาศัยชะลอตัวลงด้วย” นางสวองค์กล่าวพร้อมกับยกตัวอย่างข้อมูลบัตรเครดิตซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายในภัตตาคารชะลอตัวลงในช่วงปลายเดือนก.ค.และส.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นนอกจากนี้นางสวองค์คาดว่าอัตราว่างงานเดือนส.ค.ของสหรัฐจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ5.4%โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราการมีส่วนร่วมด้านแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้เวลา19.30น.ตามเวลาไทย

ผลวิจัยเบลเยียมชี้วัคซีนโมเดอร์นาสร้างภูมิคุ้มกันโควิดได้มากกว่าไฟเซอร์2เท่า

ผลวิจัยจากเบลเยียมซึ่งใช้ข้อมูลจากบุคลากรสาธารณสุขเกือบ2,500คนเพื่อเปรียบเทียบระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายหลังจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19ระบุว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19ของโมเดอร์นาสามารถสร้างแอนติบอดี้ในร่างกายได้มากกว่า2เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคผลวิจัยพบว่าระดับแอนติบอดี้ในร่างกายของผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อโควิด-19มาก่อนและได้รับการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาทั้ง2โดสอยู่ที่ระดับ2,881หน่วยต่อมิลลิลิตรเทียบกับ1,108หน่วยต่อมิลลิลิตรของไฟเซอร์งานวิจัยดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกันโดยระบุว่าความแตกต่างนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นปริมาณสารออกฤทธิ์ (100ไมโครกรัมในวัคซีนโมเดอร์นาเทียบกับ30ไมโครกรัมในวัคซีนไฟเซอร์) หรือระยะเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนแต่ละโดส (4สัปดาห์สำหรับวัคซีนโมเดอร์นาเทียบกับ3สัปดาห์ของวัคซีนไฟเซอร์)   นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันที่9ส.ค. ซึ่งใช้ข้อมูลจากระบบสุขภาพMayo Clinic ในสหรัฐที่ระบุว่าวัคซีนของโมเดอร์นามีความเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19ได้มากเป็น2เท่าเมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์

EU ถอดสหรัฐจากรายชื่อประเทศปลอดภัยเหตุโควิดระบาดไม่หยุด

สภาสหภาพยุโรป (EU) ประกาศถอดสหรัฐออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยด้านการเดินทางเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยนอกจากสหรัฐแล้วEU ยังได้ถอดอิสราเอล, เลบานอน, มอนเตเนโกร, มาซิโดเนียเหนือและโคโซโวออกจากรายชื่อประเทศและเขตแดนปลอดภัยสำหรับการเดินทางโดยไม่มีเหตุจำเป็นความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเมื่อช่วงเดือนมิ.ย. ที่EU กำหนดให้สหรัฐอยู่ในกลุ่มประเทศปลอดภัยก่อนจะเข้าช่วงเทศกาลวันหยุดหน้าร้อนทั้งนี้EU ได้ออกแถลงการณ์แนะนำให้ประเทศสมาชิกEU จำกัดการเดินทางของผู้ที่มาจากสหรัฐเนื่องจากในสหรัฐมีการแพร่ระบาดของโควิด-19อย่างหนักโดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่977,947รายและผู้เสียชีวิต7,394รายซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลกคำแนะนำดังกล่าวไม่มีผลผูกมัดใดๆแต่ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศและเขตแดนเหล่านี้อาจถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้นรวมถึงมีข้อจำกัดมากขึ้นเมื่อเดินทางมายังยุโรปเช่นต้องถูกบังคับให้กักตัว

- Advertisement -

Comments
Loading...