วิเคราะห์ราคาทองคำ 5 พ.ค.63(ภาคเช้า) by HGF

โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
กองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6
สัปดาห์นี้ติดตามการจ้างงานของสหรัฐเดือนเม.ย.
ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวกรอบ 1,690-1,720 ดอลลาร์
- สัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำ Spot เคลื่อนไหวในกรอบ 1,669-1,728 ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยลบจากรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับยารักษาโควิด-19 และตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรง ขณะที่ทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ระดับ 0-0.25% จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น จีดีพีไตรมาส 1 ของสหรัฐหดตัวลง 4.8% แย่กว่าตลาด และกองทุน SPDR ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 โดยซื้อทองคำ 19.59 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สัปดาห์นี้ติดตามมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการจ้างงานของสหรัฐเดือนเม.ย. ซึ่งตลาดคาดการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP เดือนเม.ย. จะลดลง 20 ล้านตำแหน่ง ส่วนการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ตลาดคาดจะลดลง 21 ล้านตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- ราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,690-1,720 ดอลลาร์ ซึ่งทองคำมีประเด็นบวกจากสหรัฐขู่จะเรียกเก็บภาษีจีนเพื่อตอบโต้กรณีที่จีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยทองคำมีแนวต้าน 1,720 ดอลลาร์ และ 1,730 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับ 1,690 ดอลลาร์ และ 1,670 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,701.70 | +3.48 | 1,690/1,670 | 1,720/1,730 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
26,150 | +50 | 25,750/25,550 | 26,200/26,350 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
26,140 | -320 | 25,970/25,730 | 26,420/26,570 |
แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ราคาทอง Spot 1,690 ดอลลาร์ (GF 25,970 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,680 ดอลลาร์ (GF 25,730 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,690.0 | -31.20 | 1,693/1,673 | 1,723/1,733 |
แนะนำซื้อเก็งกำไรที่ราคา GOM20 1,693 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,683 ดอลลาร์
ค่าเงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะอ่อนค่าลง เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แข็งค่าขึ้น ซึ่งมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดย USD Futures เดือนมิ.ย.63 คาดจะมีแนวต้านที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 32.90 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ : ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลัก นลท.รุกซื้อสกุลเงินปลอดภัยหลังสหรัฐขู่รีดภาษีจีน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยการเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสหรัฐขู่เก็บภาษีจีนเพื่อตอบโต้กรณีที่จีนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดพุ่ง $12.4 เหตุวิตกข้อพิพาทการค้าหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,713.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 14.2 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 14.796 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ : น้ำมัน WTI ปิดบวก 61 เซนต์ รับโอเปกพลัสเริ่มลดการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 20 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ค.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่เริ่มปรับลดการผลิตเพื่อรับมือกับภาวะน้ำมันล้นตลาดซึ่งเกิดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทพลังงานของสหรัฐได้ลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 3.1% ปิดที่ 20.39 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 2.9% ปิดที่ 27.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดบวก 26.07 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ,พลังงาน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานที่นักลงทุนส่งเข้ามาในช่วงท้ายของการซื้อขาย ซึ่งได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความตึงเครียดด้านการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,749.76 จุด เพิ่มขึ้น 26.07 จุด หรือ +0.11% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,842.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.03 จุด หรือ +0.42% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,710.71 จุด เพิ่มขึ้น 105.77 จุด หรือ +1.23%
