GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

วิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ม.ค.64(ภาคเช้า) by YLG

292

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่ทะลุแนวต้าน 1,870-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจจะเห็นการอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ  เสี่ยงซื้อในบริเวณ 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

แนวรับ : 1,837 1,818 1,800  แนวต้าน : 1,875 1,896 1,914

จจัยพื้นฐาน :

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ระหว่างวันราคาแกว่งตัวในกรอบ  ท่ามกลางปัจจัยบวกและปัจจัยลบที่เข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา  ขณะที่ความวิตกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีไบเดนส่อเค้าล่าช้าและวงเงินอาจจะน้อยกว่าระดับดังกล่าว  กระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย  ประกอบกับ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกและสหรัฐ  นอกจากนี้  ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการคาดการณ์ว่าจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) จะเปิดเผยผลการทดลองวัคซีนต้าน COVID-19  เข็มเดียวของทางบริษัทในสัปดาห์นี้  ปัจจัยที่กล่าวมากดดันการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ  อย่างไรก็ดี  มีแรงซื้อสลับเข้ามาพยุงราคาเอาไว้เช่นกัน  ส่วนหนึ่ง คือ มีแรงซื้อทองคำกายภาพจากจีนในช่วงก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีน  สะท้อนจากราคาซื้อขายทองคำกายภาพในจีนที่ยังคงซื้อขายอยู่บนราคาพรีเมี่ยม  รวมถึงตัวเลขนำเข้าทองคำสุทธิของจีนผ่านทางฮ่องกงที่เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค.เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน  อีกทั้งสกุลเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าในช่วงปลายตลาด  เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนระมัดระวังในการถือครองสถานะของดอลลาร์  ก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเสร็จสิ้นลงในช่วงกลางดึกของคืนวันนี้  จึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงติดลบของทองคำ  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -0.87 ตัน  สำหรับวันนี้  จับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คาดเฟดคงดอกเบี้ยตามเดิม  แต่แนะนำจับตาถ้อยแลถงของนายพาวเวลล์  ประธานเฟดเป็นสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตของเฟด  รวมถึงติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ

- Advertisement -

จจัยทางเทคนิค :

บริเวณแนวต้านที่ 1,870-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถ้าราคายังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับอยู่ที่ 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าราคาจะพยายามสร้างฐานราคาสะสมแรงซื้ออีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน :

เสี่ยงเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,837 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ลดพอร์ตการลงทุนหากราคาหลุดแนวดังกล่าว) หากราคาดีดตัวขึ้นให้พิจารณาโซน 1,870-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดปิดสถานะทำกำไร

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ดาวโจนส์ปิดลบ 22.96 จุด จับตาประชุมเฟด-ผลประกอบการเอกชน  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนรอดูว่าเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนต่อไปหรือไม่  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,937.04 จุด ลดลง 22.96 จุด หรือ -0.07% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,849.62 จุด ลดลง 5.74 จุด หรือ -0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,626.06 จุด ลดลง 9.93 จุด หรือ -0.07%
  • (+) ดอลล์อ่อนเทียบสกุลเงินหลัก นักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนรอดูว่าเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนต่อไปหรือไม่  ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ 90.1700 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 103.64 เยน จากระดับ 103.79 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8865 ฟรังก์ จากระดับ 0.8881 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2695 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2749 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2139 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3732 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3663 ดอลลาร์
  • (-) “เอสแอนด์พี”เผยราคาบ้านสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบกว่า 6 ปีในเดือนพ.ย.  ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 9.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 6 ปี  ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือนพ.ย.
  • (-) IMF ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2563-64 จากอานิสงส์วัคซีนโควิด  กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกหดตัว 3.5% ในปี 2563 ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้วที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกหดตัว 4.4%  นอกจากนี้ IMF ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 สู่ระดับ 5.5% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 5.2% และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.2% ในปี 2565  IMF ระบุว่า การอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวนมากขึ้น และการฉีดวัคซีนในวงกว้างในประเทศต่างๆในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ได้ช่วยหนุนความหวังที่จะเห็นการยุติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากสหรัฐ ญี่ปุ่น และประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ได้เป็นปัจจัยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก  อย่างไรก็ดี IMF เตือนว่าเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความไม่แน่นอน ท่ามกลางการแพร่ระบาดรอบใหม่ และการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19  ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 5.1% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.1% โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐภายใต้อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวมากขึ้น
  • (-) EU จี้บริษัทวัคซีนเร่งส่งมอบ ขณะขู่ฟ้องศาลข้อหาละเมิดสัญญา  นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะต้องรักษาคำพูดเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนให้แก่ EU  “ยุโรปได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งแรกของโลก และเพื่อสร้างสินค้าสาธารณะสำหรับโลกอย่างแท้จริง และตอนนี้ บริษัทจะต้องส่งมอบวัคซีน โดยต้องรักษาข้อผูกพัน” นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าว
  • (-) “จอห์นสัน” เตรียมเปิดผลทดลองวัคซีนโควิด คาดเข็มเดียวเอาอยู่  บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะเปิดเผยผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในไม่ช้า  มีการคาดการณ์ว่า J&J จะเปิดเผยผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ได้ทำการทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 กับอาสาสมัครจำนวน 45,000 คน
  • (-) Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐสูงกว่าคาดในม.ค.  ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 89.3 ในเดือนม.ค. จากระดับ 87.1 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 89.0

- Advertisement -

Comments
Loading...