วิเคราะห์ราคาทองคำ 22 ม.ค.63(ภาคบ่าย) by YLG

โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
แนวรับ : 1,546 1,536 1,528
แนวต้าน : 1,569 1,580 1,589
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน (เพิ่มเติมช่วงเย็น)
สรุป นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวต่อ นสพ.วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า ข้อตกลงการค้าระยะที่ 2 กับจีนไม่จำเป็นต้องเป็น “ความสำเร็จครั้งใหญ่” ที่ยกเลิกภาษีที่มีอยู่ทั้งหมด เขาเสริมว่า “เราอาจทำข้อตกลงระยะ 2A และลดภาษีบางส่วน เราสามารถดำเนินการตามลำดับ นอกจากนี้ ซีอีโอของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน มั่นใจว่าทางบริษัทจะสามารถปกป้องตัวเอง หากสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาให้กับหัวเว่ยบางประการ แต่จะไม่ส่งผลกระทบมากนัก ท่าทีดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ประเด็นสงความการค้า ซึ่งส่งผลลบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก อาจยืดเยื้อและดำเนินต่อไป ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ในช่วงบ่ายราคาทองคำลดช่วงติดลบลง อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นแต่ยังไม่สามารถผ่านโซน 1,560-1,569 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายออกมา ซึ่งหากราคาไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่งยังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัว โดยประเมินแนวรับบริเวณ 1,546-1,541 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น
ปัจจัยทางเทคนิค
แนวโน้ม Gold Spot: หากราคาสามารถพยายามทรงตัวรักษาระดับและยืนได้จะเห็นราคาค่อยๆปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,560-1,569 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้ ประเมินว่าราคาทองคำจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,546-1,541 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์ Gold Futures:
Long Position แนะนำให้ทยอยปิดสถานะทำกำไรตามบริเวณแนวต้าน 1,560-1,569 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,546-1,541 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Short Position บริเวณแนวรับ 1,546-1,541 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดแนวดังกล่าวและยืนได้อย่างแข็งแกร่งแนะนำให้ปิดสถานะ แต่แนะนำถือต่อหากหลุดโซน 1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Open New รอเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,546-1,541 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ แต่หากราคาหลุด 1,536 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สถานะซื้อให้ตัดขาดทุน ทั้งนี้ อาจแบ่งทองคำออกขายทำกำไรเมื่อราคาขยับขึ้นไม่ผ่านโซน 1,560-1,569 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ
ข่าวสารประกอบการลงทุน
- (+) เกาหลีเหนือประกาศไม่ทำตามคำมั่นเรื่องระงับการทดสอบนิวเคลียร์อีกต่อไป เมื่อวานนี้เกาหลีเหนือระบุว่า จะไม่ดำเนินการตามพันธสัญญาในการระงับการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธอีกต่อไป โดยตำหนิว่า เป็นเพราะสหรัฐไม่ดำเนินการตามกำหนดเส้นตายสิ้นปีสำหรับการเจรจานิวเคลียร์และการคว่ำบาตรอัน “โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม” ของสหรัฐ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกำหนดเส้นตายสิ้นเดือนธ.ค.สำหรับการเจรจาปลดนิวเคลียร์กับสหรัฐ และนายโรเบิร์ต โอไบรเอิน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวระบุในขณะนั้นว่า สหรัฐได้เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสาร นายโอไบรเอินระบุในเวลานั้นว่า เขาหวังว่า ประธานคิมจะดำเนินการตามพันธสัญญาการปลดนิวเคลียร์ที่ให้ไว้ที่การประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ
- (-) เยอรมนีอาจสูญเสียมากที่สุดจากการค้าที่เปลี่ยนไปเพราะข้อตกลงสหรัฐ-จีน เมื่อวานนี้ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้าออกจากผู้ส่งออกยุโรป และเยอรมนีมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐและจีนสงบศึกการค้าที่ดำเนินมานาน 18 เดือน ซึ่งสงครามการค้าดังกล่าวทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอลงและเพิ่มความไม่แน่นอนทางธุรกิจ ข้อตกลงขั้นต้นเรียกร้องให้จีนซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐมากขึ้น นายกาเบรียล เฟลเบอร์เมร์ ประธานสถาบัน Kiel Institute for the World Economy ระบุว่า ข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 จะเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลเวียนทางการค้าใหม่และจะลดอุปสงค์สำหรับสินค้ายุโรปเป็นมูลค่าเกือบ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
- (-) ฮั่งเส็งปิดทะยาน 355.71 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไร ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ปิดร่วงลงกว่า 800 จุดเมื่อวานนี้ เนื่องจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฮ่องกงลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa3 จากระดับ Aa2 โดยระบุว่ารัฐบาลฮ่องกงล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพในการรับมือกับเหตุการณ์ประท้วง ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 355.71 จุด หรือ 1.27% ปิดวันนี้ที่ 28,341.04 จุด ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาสถานการณ์ไวรัสโคโรนาอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในสหรัฐ ซึ่งผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นชายชาวอเมริกันวัย 30 ปี ซึ่งเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นของจีน และกลับมายังสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 15 ม.ค. ซึ่งถือเป็นการพบครั้งแรกในสหรัฐ และครั้งแรกในประเทศที่อยู่นอกภูมิภาคเอเชีย ขณะที่จีนรายงานว่าจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 6 รายจากเชื้อไวรัสดังกล่าว
- (-) รองนายกฯจีนย้ำจีนจะเปิดกว้างต่อเนื่องขณะพร้อมรับความท้าทายทั้งหมด นายฮั่น เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีจีนระบุที่การประชุมเศรษฐกิจโลก ณ เมืองดาวอสเมื่อวานนี้ว่า จีนจะยังคงทำการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่พยายามเปิดกว้างตลาดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนทั่วโลก นายฮั่นระบุว่า แนวโน้มที่แท้จริงของเศรษฐกิจจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และจีนเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีในการเอาชนะความเสี่ยงและความท้าทายทั้งหมด เขาระบุว่า “จีนจะเปิดกว้างประเทศมากขึ้นต่อโลก”
- (-) ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดขยับขึ้น ขณะนักลงทุนจับตาสถานการณ์ไวรัสโคโรนา-ผลประกอบการ ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีนในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.2% หลังเปิดตลาดไม่นาน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,053.85 จุด เพิ่มขึ้น 7.86 จุด, +0.13% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 13,601.65 จุด เพิ่มขึ้น 45.78 จุด, +0.34% ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในสหรัฐ โดยผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวเป็นชายวัย 30 ปีซึ่งเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ยของจีน แถลงการณ์ของ CDC ระบุว่า ชายคนดังกล่าวเป็นพลเมืองสหรัฐซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองซีแอตเทิล ได้เดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นของจีน และกลับมายังสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 15 ม.ค.
