เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด
- Advertisement -
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ :
หากตลอดวันราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านบริเวณ 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ดังนั้นให้ระมัดระวัง เพราะมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับย่อลงมาบริเวณแนวรับ 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,818 1,800 1,782 แนวต้าน : 1,856 1,877 1,896
ปัจจัยพื้นฐาน :
- Advertisement -
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ทั้งนี้ ราคาทองคำร่วงลงก่อนจนแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,805.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ4 สัปดาห์ของดัชนีดอลลาร์ หลังนักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง(Risk off) พร้อมเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย นอกจากนี้ดัชนีดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ เตรียมแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้ว่า สหรัฐจะไม่จงใจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางการค้า สถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ ก่อนที่จะมีแรงซื้อ Buy the dip เช้ามาหนุนให้ราคาฟื้นตัว ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นแรงซื้อทองคำกายภาพจากจีนในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับมีแรงซื้อทางเทคนิคเข้ามา หลังจากเกิดสัญญาณ Bullish RSI Divergence จึงส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน สู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,840.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำทรงตัวในช่วงตลาดสหรัฐ เนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุนและตลาดทองคำสหรัฐปิดทำการในวัน Martin Luther King ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนำติดตามถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ที่มีกำหนดจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐ ในระหว่างการประชุมเพื่อโหวตรับรอง (confirmation hearing) การเสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐในวันที่ 19 ม.ค.นี้
ปัจจัยทางเทคนิค :
หากราคาปรับตัวขึ้นมาแต่ยังไม่สามารถเหนือระดับแนวต้านโซน 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงคาดว่าจะเห็นแรงขายกดดันให้ราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และหากยืนบริเวณดังกล่าวได้ ราคายังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซนเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน :
แนะนำให้เปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไปและควรคำนึงถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาในระดับสูง
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) สหรัฐปิดอาคารรัฐสภาชั่วคราว หลังเกิดไฟไหม้บริเวณใกล้เคียง อาคารรัฐสภาสหรัฐถูกปิดเป็นการชั่วคราวในวันนี้ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นหลังเกิดเหตุไฟไหม้ในบริเวณใกล้เคียง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสองวันก่อนที่นายโจ ไบเดน จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐในวันพุธที่ 20 ม.ค.นี้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา หวั่นซ้ำร้อยเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ บุกเข้าไปก่อเหตุจลาจลในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย “ไม่มีอันตรายต่อประชาชน” หน่วยอารักขาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐ (US Secret Service) กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ ขณะที่ตำรวจรัฐสภากล่าวในแถลงการณ์ว่า สมาชิกรัฐสภาและบุคลากรได้รับคำแนะนำให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านหน่วยดับเพลิงทวีตข้อความว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงซึ่งเกิดขึ้นใกล้กับบริเวณของอาคารรัฐสภาได้แล้ว โดยที่ “ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ”
- (+) จีนคว่ำบาตรจนท.สหรัฐเอี่ยวประเด็นไต้หวัน ไม่พอใจถูกสหรัฐขู่ส่งทูตเยือนไต้หวัน รัฐบาลจีนประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่สหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นไต้หวัน ซึ่งรวมถึงประเด็นที่สหรัฐยกเลิกการควบคุมการติดต่อสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและไต้หวัน นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า “เมื่อพิจารณาจากการกระทำของฝั่งสหรัฐแล้ว จีนได้ตัดสินใจคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่สหรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นไต้หวัน”
- (-) ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนดีกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนและซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันจันทร์ในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 408.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.83 จุด หรือ +0.20% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,617.27 จุด เพิ่มขึ้น 5.58 จุด หรือ +0.10% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,848.35 จุด เพิ่มขึ้น 60.62 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,720.65 จุด ลดลง 15.06 จุด หรือ -0.22%
- (-) ว่าที่รมว.คลังสหรัฐยันไม่ใช้นโยบายดอลล์อ่อนเพิ่มความได้เปรียบการแข่งขัน หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รมว.คลังคนใหม่ของสหรัฐ จะแถลงยืนยันต่อวุฒิสภาสหรัฐในวันอังคารนี้ว่า สหรัฐจะดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดโดยกลไกตลาด โดยจะไม่จงใจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงแต่อย่างใด รายงานข่าวคาดการณ์ว่า นางเยลเลนจะยืนยันต่อวุฒิสภาสหรัฐเกี่ยวกับนโยบายดอลลาร์ว่า “มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินอื่นๆ จะถูกกำหนดโดยตลาด โดยตลาดจะปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ และจะส่งผลต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจโลก” ทั้งนี้ นางเยลเลนเตรียมที่จะแถลงว่า “สหรัฐจะไม่จงใจทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางการค้า และเราจะคัดค้านความพยายามของประเทศอื่นๆ ที่จะดำเนินการดังกล่าวด้วย”
- (-) ภาคธุรกิจอังกฤษวอนรัฐช่วยบ.รถไฟ ยูโรสตาร์ จวนล้มละลายจากพิษโควิด ผู้นำภาคธุรกิจของอังกฤษออกโรงเรียกร้องรัฐบาลให้ความช่วยเหลือ ยูโรสตาร์ (Eurostar) ผู้ให้บริการรถไฟความเร็วสูงซึ่งวิ่งระหว่างอังกฤษกับประเทศในยุโรปตะวันตก หลังจากที่บริษัทเปิดเผยว่าใกล้จะล้มละลายอันเนื่องมาจากการปิดพรมแดนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลอนดอน เฟิร์สท์ ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ ส่งจดหมายถึงริชี ซูนัก รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ระบุ “จำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลือยูโรสตาร์ในทันที เพื่อรักษาอนาคตของบริษัทเอาไว้” จดหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยผู้บริหารและนักวิชาการ 25 คน ยังได้เตือนกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมว่าอย่าปล่อยให้ยูโรสตาร์ล้ม
- (+/-) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันนี้ (18 ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ โดยตลาดจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันอังคารที่ 19 ม.ค. นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน ตลาดทองคำ ตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT และตลาดทองแดงของสหรัฐก็ปิดทำการในวันนี้เช่นกัน
- (+/-) ว่าที่รมว.คลังสหรัฐหนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดน มั่นใจช่วยเหลือปชช.เต็มที่ นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งนำเสนอโดยนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐนั้น เป็นมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนให้สามารถรับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 “ดิฉันเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นเวลานานจากการแพร่ระบาด เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า คนงานชาวอเมริกันสามารถแข่งขันกับชาติอื่นๆในตลาดโลกได้” นางเยลเลนกล่าวในร่างแถลงการณ์ที่เตรียมแถลงต่อคณะกรรมการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น
