วิเคราะห์ราคาทองคำ 11 ธ.ค.62(ภาคเช้า) by HGF

โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
คืนนี้ตี 2 ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
คาดเฟดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ย
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,460-1,470 ดอลลาร์
- ราคาทองคำ Spot เมื่อวานปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยนักลงทุนไม่มั่นใจการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอัตรา 15% วงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนกองทุน SPDR ขายทองคำ 0.30 ตันเมื่อวาน
- คืนนี้ตี 2 ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดคาดเฟดจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ที่สำคัญติดตามการแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐ นอกจากนี้จะมีประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐของเฟดด้วย
- แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,460- 1,470 ดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังรอติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,460 ดอลลาร์ และแนวรับสำคัญที่ 1,450 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,470 ดอลลาร์ และ 1,475 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,464.30 | +2.80 | 1,460/1,450 | 1,470/1,475 |
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
21,050 | +50 | 20,950/20,850 | 21,100/21,150 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
21,080 | -10 | 21,080/20,980 | 21,170/21,220 |
เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,460-1,470 ดอลลาร์ (GF 21,080-21,170 บาท)
ส่วนการลงทุนในทองแท่ง แนะนำทยอยซื้อสะสมที่ราคาทองคำ Spot 1,450 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,463.50 | -0.90 | 1,462/1,452 | 1,472/1,477 |
เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOZ19 ระหว่าง 1,462-1,472 ดอลลาร์
ค่าเงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดีเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วยสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินบาท โดย USD Futures คาดจะมีแนวต้านที่ 30.35 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 30.30 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ : ยูโรแข็งค่า ขานรับความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเยอรมนีพุ่งเกินคาด
สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) หลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย รวมทั้งข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : เงินดอลล์อ่อนหนุนทองปิดบวก $3.20 ขณะนักลงทุนจับตาประชุมเฟด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,468.10 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 16.702 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ : น้ำมัน WTI ปิดบวก 22 เซนต์ รับคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบลดลงสัปดาห์ที่สอง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 59.24 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 64.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดลบ 27.88 จุด นักลงทุนรอความชัดเจนประเด็นการค้าสหรัฐ-จีน
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูความชัดเจนว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมในวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อจับสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,881.72 จุด ลดลง 27.88 จุด หรือ -0.10% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,132.52 จุด ลดลง 3.44 จุด หรือ -0.11% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,616.18 จุด ลดลง 5.64 จุด หรือ -0.07%
ผลสำรวจชี้คะแนนนิยมพรรคอนุรักษ์นิยมแซงหน้าพรรคแรงงาน ก่อนศึกเลือกตั้งอังกฤษ 12 ธ.ค.นี้
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย Survation ในวันนี้ ชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีคะแนนนิยมเหนือพรรคแรงงาน และมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 14% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 9% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลสำรวจดังกล่าวได้จัดทำขึ้นผ่านการสอบถามความเห็นของประชาชนราว 1,012 คน ในระหว่างวันที่ 5-7 ธ.ค. การสำรวจดังกล่าวมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษจะมีขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 ของอังกฤษในรอบ 5 ปี หลังจากที่เคยมีการเลือกตั้งในปี 2558 และ 2560
สื่อนอกเผยส.ส.พรรคเดโมแครต-ผู้แทนการค้าใกล้บรรลุข้อตกลงสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดาแล้ว
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในสังกัดพรรคเดโมแครต และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับประเด็นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) แล้ว โดยแหล่งข่าวระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจปรากฏให้เห็นภายในช่วงคริสต์มาสนี้ รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ส.ส.พรรคเดโมแครต กำลังพิจารณาข้อเสนอจากสำนักงานผู้แทนการค้า โดยทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับกฎด้านแรงงาน ที่ผ่านมา ส.ส.พรรคเดโมแครตได้ใช้เวลาในการเจรจาต่อรองเป็นเวลาหลายเดือนกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐเกี่ยวกับประเด็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆในข้อตกลง USMCA ในสาขาหลักๆ 4 สาขา ได้แก่ แรงงาน สิ่งแวดล้อม การบังคับใช้ และข้อกำหนดในการสั่งยา ข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดา หรือ USMCA เป็นข้อตกลงที่จะเข้ามาแทนที่ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) โดยมีการลงนามไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังต้องได้รับการอนุมัติจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของทั้งสามประเทศก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ นับจนถึงขณะนี้ เม็กซิโกได้อนุมัติข้อตกลงดังกล่าวไปแล้ว โดยยังเหลือแคนาดาและสหรัฐที่ยังไม่ได้ให้การรับรอง
จีนหวังบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐโดยเร็ว ก่อนมาตรการภาษีมีผล 15 ธ.ค.นี้ นายเหริน หงบิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงว่า ทางการจีนหวังที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยต้องเป็นข้อตกลงที่อยู่บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและความเคารพแก่กัน และต้องให้ประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น ก่อนที่มาตรการภาษีของสหรัฐที่เรียกเก็บกับสินค้าจีนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ก่อนหน้านี้ไม่นาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันศุกร์ว่า สหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งสวนทางกับที่เขาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า ขณะที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวก็ได้เปิดเผยในวันศุกร์ว่า สหรัฐและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้า ขณะที่การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และไม่มีการกำหนดเส้นตาย แต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้เป็นวันสำคัญที่สหรัฐกำหนดจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้น
