วิเคราะห์ราคาทองคำ 11 ก.พ.63(ภาคเช้า) by HGF

โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน
สัปดาห์นี้ติดตามการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานเฟด
ทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ
- สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ Spot เคลื่อนไหวผันผวน ในช่วงต้นสัปดาห์ราคาทองคำลดลงแตะที่ 1,547 ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อเนื่องและเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางในหลายประเทศอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรืออาจใช้มาตรการ QE เพื่อรับมือกับผลกระทบของไวรัสโคโรนา ซึ่งไวรัสโคโรนายังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ส่วนสหรัฐประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่ง
- สัปดาห์นี้ติดตามการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธาน เฟดต่อสภาคองเกรส ซึ่งเฟดได้เคยส่งสัญญาณจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา จีดีพีไตรมาส 4 ของยูโรโซน และรายงานประมาณการเศรษฐกิจของยูโรโซน
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง โดยระยะสั้นคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,565-1,580 ดอลลาร์ ทองคำมีแนวรับที่ 1,565 ดอลลาร์ และ 1,550 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,580 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,590 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,571.50 | +1.36 | 1,565/1,550 | 1,580/1,590 |
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
23,300 | +100 | 23,150/23,000 | 23,350/23,500 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
23,390 | +40 | 23,290/23,080 | 23,470/23,610 |
เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,565-1,580 ดอลลาร์ (GF 23,290-23,470 บาท))
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,575.00 | +0.90 | 1,571/1,556 | 1,586/1,596 |
เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOH19 1,571-1,586 ดอลลาร์
ค่าเงินบาท
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้น หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าลงมาก อย่างไรก็ดีเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และองค์การอนามัยโลกเตือนว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนานอกประเทศจีนที่รายงานในขณะนี้อาจเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อเงินบาท โดย USD Futures เดือนมี.ค.63 คาดจะมีแนวต้านที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 31.18 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ : ยูโรอ่อนเทียบดอลล์ วิตกภาคการผลิตเยอรมนี-อิตาลีร่วงหนัก
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ของเยอรมนีทรุดตัวลงหนักสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่มีรายงานว่าภาคการผลิตของอิตาลีร่วงลงในเดือนธ.ค.เช่นกัน สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีทรุดตัวลง 3.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2552 และบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอของภาคการผลิต ซึ่งอาจฉุดให้เศรษฐกิจเยอรมนีเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $6.1 นลท.รุกซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังไวรัสโคโรนาระบาดหนัก
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในขณะนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,579.50 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 9.3 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 17.785 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ : น้ำมัน WTI ปิดลบ 75 เซนต์ หวั่นไวรัสโคโรนากระทบอุปสงค์น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่รัสเซียยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อข้อเสนอที่ให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 49.57 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 53.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดบวก 174.31 จุด รับข่าวจีนออกมาตรการลดผลกระทบไวรัสโคโรนา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของจีนเริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติเมื่อวานนี้ รวมทั้งรายงานที่ว่า ธนาคารกลางและรัฐบาลจีนได้ประกาศอัดฉีดเงินทุนให้กับภาคเอกชนเพื่อลดผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาด ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,276.82 จุด เพิ่มขึ้น 174.31 จุด หรือ +0.60% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,352.09 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.73% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,628.39 จุด เพิ่มขึ้น 107.88 จุด หรือ +1.13%
