GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 22 ก.ค.64(ภาคเช้า) by HGF

390

- Advertisement -


โดย  : 
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ราคาทองคำปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2

วันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป

ราคาทองคำคาดปรับลดลงไปที่แนวรับ 1,790-1,795 ดอลลาร์

  • Spot เมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบและปิดตลาดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยทองคำมีปัจจัยกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่เพิ่มขึ้นแตะ 1.3%ทั้งนี้ทองคำมีปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่าลงและนักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคำจากความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่รุนแรงทั่วโลก ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมติดต่อกันเป็นวันที่ 3
  • 350,000 รายจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 360,000 รายยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.89 ล้านยูนิตดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.8%
  • Spot คาดจะปรับลดลงไปที่แนวรับ1,790-1,795 ดอลลาร์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,770 ดอลลาร์ขณะที่มีแนวต้าน  1,825 ดอลลาร์ และแนวต้านสำคัญ 1,835 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,803.00-6.201,790/1,7701,825/1,835

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,100-10027,800/27,50028,300/28,450

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,190-4027,950/27,68028,470/28,620

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,790ดอลลาร์ (GF27,950บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,780ดอลลาร์ (GF 27,820 บาท)และขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,825ดอลลาร์ (GF28,470 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,807.80+0.401,793/1,7731,828/1,838

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาGOU211,793ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,783ดอลลาร์และขายทำกำไรที่ราคาGOU211,828ดอลลาร์

ค่าเงิน

- Advertisement -

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดทรงตัวและแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยโดยยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับที่สูงโดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันไปถือครองสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่นยูโรและปอนด์ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.70 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 32.90 บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ:ดอลล์อ่อนค่านลท.หันซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังตลาดหุ้นพุ่ง

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันไปถือครองสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงเช่นยูโรและปอนด์หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.22% แตะที่ 92.7613 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ 8 ดอลลาร์เหตุบอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาดอย่างไรก็ดีสัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตายังคงกระตุ้นให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์หรือ 0.44% ปิดที่ 1,803.4 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์หรือ 1.04% ปิดที่ 25.255 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $3.1 หลังสต็อกน้ำมันดิบเมืองคูชิงร่วงต่ำสุดรอบ 18 เดือน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ค.) ขานรับรายงานที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิงในรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นปรับตัวลงเช่นกันซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.1 ดอลลาร์หรือ 4.6% ปิดที่ 70.30 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.88 ดอลลาร์หรือ 4.2% ปิดที่ 72.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 286.01 จุดขานรับผลประกอบการสดใส

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและโคคา-โคล่านอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,798.00 จุดเพิ่มขึ้น 286.01 จุดหรือ +0.83% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,358.69 จุดเพิ่มขึ้น 35.63 จุดหรือ +0.82% ดัชนีNasdaqปิดที่ 14,631.95 จุดเพิ่มขึ้น 133.08 จุดหรือ +0.92%

ผอ. WHO หนุนจัดโตเกียวโอลิมปิกแม้โควิดระบาดเพื่อเป็นความหวังให้โลก

นายแพทย์ทีโดรสอัดฮานอมกีบรีเยซุสผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความคิดเห็นว่าคณะผู้จัดงานควรเดินหน้าจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงโตเกียวต่อไปเพื่อแสดงให้โลกได้เห็นถึงกิจกรรมที่สามารถจัดขึ้นได้ด้วยการวางแผนและการใช้มาตรการที่เหมาะสมท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในระหว่างการประชุมทางออนไลน์กับสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ในกรุงโตเกียวนายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่าโลกต้องการการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในขณะนี้เพื่อเป็นการเชิดชูความหวังนายแพทย์ทีโดรสระบุว่า “การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้นมีพลังที่จะหลอมรวมโลกเป็นหนึ่งสร้างแรงบันดาลใจตลอดจนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ”   นอกจากนี้นายแพทย์ทีโดรสยังได้กล่าวขณะถือคบเพลิงโอลิมปิกว่า “ขอให้แสงสว่างแห่งความหวังจากดินแดนแห่งนี้ส่องสว่างในรุ่งอรุณใหม่เพื่อโลกที่แข็งแรงปลอดภัยและยุติธรรมยิ่งขึ้น … ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกจะประสบความสำเร็จ”   รายงานข่าวระบุว่าการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกจะเริ่มขึ้นในวันที่23ก.ค. แม้หลายฝ่ายจะยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับความปลอดภัยขณะที่ชาวต่างชาติหลายหมื่นคนเดินทางมาถึงญี่ปุ่นขณะเดียวกันนายแพทย์ทีโดรสได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงความแตกต่างของการฉีดวัคซีนระหว่างแต่ละประเทศโดยระบุว่าการแพร่ระบาดอาจยุติลงได้หากกลุ่มG20แสดงความเป็นผู้นำร่วมกันและแจกจ่ายวัคซีนอย่างยุติธรรม   “ขณะนี้วัคซีนกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้โชคดีเพียงไม่กี่คนแทนที่จะนำไปแจกจ่ายอย่างกว้างขวาง” นายแพทย์ทีโดรสกล่าวพร้อมกับเสริมว่า “การแพร่ระบาดครั้งนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อโลกเลือกที่จะยุติมันเรื่องนี้อยู่ในอำนาจของเรา … เรามีเครื่องมือทุกอย่างที่ต้องการเราสามารถป้องกันโรคนี้รวมถึงสามารถตรวจหาเชื้อและรักษาโรคได้”   ทั้งนี้ญี่ปุ่นซึ่งมีประชากรเพียง34%ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสแสดงความกังวลว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอาจก่อให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง

ผู้ช่วย “แนนซีเพโลซี” ติดเชื้อโควิดแม้ได้รับวัคซีนครบโดส

ผู้ช่วยของนางแนนซีเพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอีกรายหนึ่งมีผลการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19เป็นบวกแม้บุคคลทั้งสองได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตามทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า “เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวซึ่งได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19เป็นบวกและได้เข้ารับการกักตัวแล้วในขณะนี้”  “หน่วยแพทย์ของทำเนียบขาวได้ติดต่อพูดคุยกับผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับบุคคลทั้งสองและได้คำตอบว่าบุคคลทั้งสองไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆของทำเนียบขาวส่วนเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อนั้นมีอาการเล็กน้อย”   ทางด้านสำนักงานของนางเพโลซียืนยันว่าผู้ช่วยของนางเพโลซีมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19เป็นบวกหลังจากเข้าประชุมร่วมกับกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐเท็กซัสที่เดินทางมายังกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผลวิจัยชี้วัคซีนของจอห์นสันฯโดสเดียวป้องกันสายพันธุ์เดลตา-แลมบ์ดาได้น้อยลง

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานผลการวิจัยล่าสุดว่าวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (J&J) มีประสิทธิภาพลดลงอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์แลมบ์ดาเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ปกติซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประชาชนราว13ล้านคนที่ได้รับวัคซีนของJ&J โดยทีมผู้วิจัยให้คำแนะนำว่าการฉีดวัคซีนโดสที่2ควรใช้วัคซีนmRNA ของไฟเซอร์-บิออนเทคหรือวัคซีนของโมเดอร์นาทั้งนี้ผลวิจัยดังกล่าวขัดแย้งกับผลวิจัยในกลุ่มทดลองเล็กๆที่J&J เผยแพร่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาซึ่งระบุว่าการฉีดวัคซีนของJ&J เพียง1โดสก็มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19สายพันธุ์เดลตาได้แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วถึง8เดือน

- Advertisement -

Comments
Loading...