บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 11 ต.ค.64 by HGF
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
การจ้างงานของสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่ง
สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC
ทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,745-1,770 ดอลลาร์
- ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาความขัดแย้งของสภาคองเกรสในการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐช่วยหนุนราคาทองคำแต่ในช่วงกลางสัปดาห์มีแรงเทขายทองคำออกมาเนื่องจากสถานการณ์คลี่คลายลง ซึ่งในวันพฤหัสที่ผ่านมาวุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราวจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. โดยจะเพิ่มเพดานหนี้อีก 4.80 แสนล้านดอลลาร์ และร่างกฎหมายดังกล่าวจะส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ส่วนการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง194,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 490,000 ตำแหน่ง ช่วยหนุนราคาทองคำขึ้นไปแตะ 1,781 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.ทางด้านกองทุน SPDRขายทองคำ1.49 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMCและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ย. และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ ได้แก่ จำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนส.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ซึ่งการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC จะทำให้ทราบมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดต่อแนวโน้มนโยบายการเงินในรายละเอียดที่มากขึ้น
- แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,745-1,770 ดอลลาร์ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,745 ดอลลาร์และ 1,737 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,770 ดอลลาร์และ 1,780 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,756.63 | +0.73 | 1,745/1,737 | 1,770/1,780 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,200 | – | 28,000/27,850 | 28,350/28,500 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,370 | +70 | 28,140/28,000 | 28,500/28,650 |
แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคาทองคำ Spot1,745ดอลลาร์ (GF28,140บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,737 ดอลลาร์ (GF28,000บาท) และขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,770 ดอลลาร์(GF28,500 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,759.30 | -2.50 | 1,748/1,740 | 1,773/1,783 |
แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรที่ราคา GOZ211,748ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,740ดอลลาร์และขายทำกำไรที่ราคา GOZ211,773ดอลลาร์
ค่าเงิน
เงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าลง 28 ส.ต. ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ33.70-34บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดโดยUSD Futures เดือนธ.ค.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.95และ 34 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าหลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.) หลังจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.16% แตะที่ 94.0680 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ 1.8 ดอลล์บอนด์ยีลด์สหรัฐเพิ่มกดดันราคา
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.8 ดอลลาร์หรือ 0.1% ปิดที่ 1,757.4 ดอลลาร์/ออนซ์และปิดลดลง 1 ดอลลาร์ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.7 เซนต์หรือ 0.21% ปิดที่ 22.705 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 1.05 ดอลล์ภาวะตึงตัวทั่วโลกหนุนราคา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ท่ามกลางภาวะตึงตัวของปริมาณพลังงานทั่วโลกซึ่งหนุนราคาน้ำมันดิบสหรัฐขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีขณะที่บรรดาผู้ใช้พลังงานรายใหญ่เผชิญความยากลำบากในการรับมือกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์หรือ 1.3% ปิดที่ 79.35 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2557 และพุ่งขึ้น 4.6% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 82.39 ดอลลาร์/บาร์เรลและเพิ่มขึ้น 3.9% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 8.69 จุดผิดหวังตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย. แต่นักลงทุนก็ยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,746.25 จุดลดลง 8.69 จุดหรือ -0.03%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,391.34 จุดลดลง 8.42 จุดหรือ -0.19% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 14,579.54 จุดลดลง 74.48 จุดหรือ -0.51%
WHO ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิดแก่ประชากรทุกประเทศให้ได้40%ก่อนสิ้นปีนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเป้าหมายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19แก่ประชากรทุกประเทศให้ได้40%ภายในสิ้นปี2564และ70%ภายในกลางปี2565โดยจะส่งมอบวัคซีนไปยังประเทศที่มีรายได้น้อยก่อนโดยเฉพาะในแอฟริกานายแพทย์ทีโดรสอัดฮานอมกีบรีเยซุสผู้อำนวยการใหญ่ของWHO กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “วันนี้WHO จะเปิดตัวยุทธศาสตร์เพื่อบรรลุเป้าหมายการวัคซีนป้องกันโควิด-19ทั่วโลกภายในกลางปี2565โดยยุทธศาสตร์นี้กำหนดเส้นทางที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการฉีดวัคซีนแก่ประชากรทุกประเทศให้ได้40%ภายในสิ้นปีนี้และ70%ภายในกลางปีหน้า” นายแพทย์ทีโดรสเปิดเผยว่าการจะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ต้องมีวัคซีนอย่างน้อย1.1หมื่นล้านโดสซึ่งเป็นปัญหาในการจัดสรรไม่ใช่ปัญหาด้านซัพพลาย “ด้วยการผลิตวัคซีนทั่วโลกในขณะนี้ที่ระดับเกือบ1.5พันล้านโดสต่อเดือนจึงมีซัพพลายเพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายของเราหากมีการแจกจ่ายอย่างเท่าเทียมกัน” นายแพทย์ทีโดรสกล่าวทั้งนี้ข้อมูลของWHO ระบุว่าปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า6.4พันล้านโดสทั่วโลกและประชากรโลกเกือบ1ใน3ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19ครบโดสแล้วอย่างไรก็ดีประเทศที่มีรายได้ต่ำได้รับวัคซีนน้อยกว่า0.5%ของจำนวนวัคซีนทั้งโลกส่วนคนในแอฟริกามีน้อยกว่า5%ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้แล้วเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้เดือนนี้
วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง50ต่อ48ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐเป็นการชั่วคราวซึ่งจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนนี้ทั้งนี้วุฒิสภาสหรัฐมีมติเพิ่มเพดานหนี้อีก4.80แสนล้านดอลลาร์สู่ระดับ28.9ล้านล้านดอลลาร์จนถึงวันที่3ธ.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ28.4ล้านล้านดอลลาร์ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อพิจารณาเป็นลำดับต่อไปขณะที่มีการคาดการณ์ว่าสภาผู้แทนราษฎรจะให้การอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวและส่งให้ประธานาธิบดีโจไบเดนลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายก่อนกำหนดเส้นตายวันที่18ต.ค.นี้ความคืบหน้าดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะช่วยคลายความกังวลให้ตลาดการเงินหลังจากที่นักวิเคราะห์รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเตือนก่อนหน้านี้ว่าหากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่18ต.ค. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ
สหรัฐรอไฟเขียวฉีดวัคซีนโควิดให้เด็ก5-11ปีก่อนวันขอบคุณพระเจ้า
เจฟฟรีย์เซียนต์สผู้ประสานงานการรับมือโรคโควิด-19ของทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสหรัฐอาจพร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ของบริษัทไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ5-11ปีในช่วงต้นเดือนพ.ย. ขณะกำลังรอการอนุมัติจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐบาลกลางนายเซียนต์สกล่าวว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้กำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาในปลายเดือนต.ค.นี้เพื่อหารือว่าจะอนุญาตให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์กับเด็กอายุ5-11ปีในกรณีฉุกเฉินหรือไม่และตามด้วยคำแนะนำจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐนายเซียนต์สระบุว่าเมื่อกระบวนการอนุมัติเสร็จสมบูรณ์ “เราก็พร้อมเรามีวัคซีนเรากำลังทำงานร่วมกับรัฐต่างๆเพื่อจัดตั้งสถานที่ที่สะดวกสำหรับผู้ปกครองและเด็กในการเข้ารับการฉีดวัคซีนรวมถึงสำนักงานกุมารแพทย์และพื้นที่ชุมชนทั้งนี้เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้สำหรับการฉีดวัคซีนก่อนวันขอบคุณพระเจ้าในช่วงปลายเดือนพ.ย. นายเซียนต์สกล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของFDA และCDC แต่แน่นอนอาจเป็นไปได้”