GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 10 ก.ย.64 by HGF

1,612

- Advertisement -


โดย  : 
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำฟื้นตัวหลังจากECB ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินQE

คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค.

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,810 ดอลลาร์

  • ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับขึ้นเนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19(PEPP) อย่างไรก็ดีข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ โดยสหรัฐประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ระดับ 310,000 รายเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ0.35 ตัน
  • คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบรายปี สะท้อนให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงเร่งตัวสูงขึ้นและปัจจัยหนึ่งที่เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,810 ดอลลาร์ซึ่งทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,810-1,815 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,794.10+5.51,780/1,7701,800/1,810

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
27,800-15027,650/27,55027,900/28,050

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
27,930-1027,730/27,58028,040/28,200

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,780-1,810ดอลลาร์(GF27,730-28,200บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,796.50+0.601,781/1,7711,801/1,811

เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOU21ระหว่าง 1,781-1,811ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดทรงตัวและแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเนื่องจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19(PEPP)ส่วนสถานการณ์โควิดในประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ค่อนข้างทรงตัว ทำให้มีผลกระทบต่อเงินบาทลดลง ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.80บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ยูโรแข็งค่าขานรับECB ส่งสัญญาณปรับลดQE

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา  (9 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือPandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) โดยโครงการPEPP ของECB นั้นเทียบเท่ากับโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)    ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.18% แตะที่ 92.4828 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $6.5 รับปัจจัยหนุนเงินดอลล์อ่อนค่า

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำดีดตัวขึ้นมายืนที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้งหลังราคาร่วงหลุดจากระดับดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลา 2 วันก่อนหน้านี้ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์หรือ 0.36% ปิดที่ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.1 เซนต์หรือ 0.5% ปิดที่ 24.177 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดร่วง $1.16 กังวลจีนปล่อยคลังน้ำมันยุทธศาสตร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลจีนจะปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อช่วยให้โรงกลั่นภายในประเทศสามารถควบคุมต้านทุนราคานอกจากนี้สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.16 ดอลลาร์หรือ 1.7% ปิดที่ 68.14 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.15 ดอลลาร์หรือ 1.6% ปิดที่ 71.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดลบ151.69จุดวิตกเฟดหั่นQE เร็วกว่าคาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่4เมื่อคืนที่ผ่านมา (9ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้หลังสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ18เดือนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่34,879.38จุดลดลง151.69จุดหรือ -0.43%ดัชนีS&P500ปิดที่4,493.28จุดลดลง20.79จุดหรือ -0.46%ดัชนีNasdaqปิดที่15,248.25จุดลดลง38.38จุดหรือ -0.25%

“เยลเลน” เตือนสหรัฐจ่อผิดนัดชำระหนี้เดือนหน้าวอนคองเกรสขยาย-ยกเลิกเพดานหนี้

นางเจเน็ตเยลเลนรัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่ามาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังซึ่งจัดหาเงินทุนชั่วคราวให้กับรัฐบาลกลางนั้นมีแนวโน้มที่จะหมดลงในเดือนต.ค.นี้พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสปรับเพิ่มหรือยกเลิกเพดานหนี้ชั่วคราวโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้    “เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่เราได้รับเมื่อไม่นานมานี้ดิฉันคิดว่าผลลัพธ์ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดคือมาตรการจัดสรรเงินสดและมาตรการพิเศษจะหมดลงในเดือนต.ค.นี้และเมื่อมาตรการและเงินสดทั้งหมดหมดลงรัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สามารถชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ” นางเยลเลนระบุในจดหมายที่ยื่นต่อสภาคองเกรสพร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสปกป้องศรัทธาและความน่าเชื่อถือของสหรัฐด้วยการดำเนินการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  “เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผ่านมาว่าเพดานหนี้มักจะมาถึงทางตันและจะต้องรอจนนาทีสุดท้ายก่อนที่จะมีการยกเลิกหรือปรับเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค, จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นปรับตัวสูงขึ้นสำหรับบรรดาผู้เสียภาษีและจะส่งผลกระทบในด้านลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ” นางเยลเลนกล่าว   “ในช่วงเวลาที่ครัวเรือน, ชุมชนและภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการโรคระบาดทั่วโลกนั้นการทำให้ความศรัทธาและความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันตกอยู่ในความเสี่ยงนั้นจะถือว่าเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบอย่างยิ่ง” นางเยลเลนกล่าวทั้งนี้ข้อกำหนดส่วนหนึ่งตามข้อตกลงด้านงบประมาณที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้ทำไว้ร่วมกันในเดือนส.ค. 2562นั้นสภาคองเกรสได้ยกเลิกเพดานหนี้ชั่วคราวจนถึงวันที่31ก.ค. 2564และหลังจากที่เพดานหนี้ถูกกำหนดขึ้นอีกครั้งในวันที่1ส.ค.ปีนี้กระทรวงการคลังสหรัฐก็เริ่มใช้มาตรการพิเศษเพื่อจัดสรรเงินให้กับรัฐบาลเป็นการชั่วคราวอย่างไรก็ดีสำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรส (CBO) เตือนว่าสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนต.ค.หรือพ.ย.ปีนี้หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มหรือยกเลิกเพดานหนี้สำหรับเพดานหนี้นั้นคือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ตามกฎหมายซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาลและการใช้จ่ายอื่นๆ

สื่ออินเดียเผยโควิดสายพันธุ์มิวระบาดใน49รัฐของสหรัฐแล้ว

สถานีโทรทัศน์วีออนของอินเดียรายงานว่าไวรัสโควิด-19สายพันธุ์มิวที่ตรวจพบครั้งแรกในประเทศโคลอมเบียนั้นได้แพร่ระบาดไปยัง49รัฐของสหรัฐแล้วรายงานระบุว่ารัฐเนแบรสกาเป็นเพียงรัฐเดียวของสหรัฐที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์มิวจนถึงขณะนี้ไวรัสโควิด-19สายพันธุ์มิวแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งปัจจุบันได้แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศทั่วโลกองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า “ไวรัสโควิดสายพันธุ์มิวมีลักษณะการกลายพันธุ์ที่บ่งชี้ว่ามีคุณสมบัติที่เป็นไปได้ในการหลบหลีกจากระบบภูมิคุ้มกัน”    ในสหรัฐนั้นรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์มิวสูงสุด384รายและสหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์มิวเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงกลางเดือนก.ค.

ตาลีบันเตรียมเปิดทางพลเมืองอเมริกันและชาติอื่นๆออกนอกประเทศ200คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่ากลุ่มตาลีบันได้ตกลงยอมให้พลเมืองอเมริกันและประเทศอื่นๆราว200คนที่ติดอยู่ในอัฟกานิสถานเดินทางออกนอกประเทศได้โดยคาดว่าเที่ยวบินอพยพดังกล่าวจะมีขึ้นในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นรายงานข่าวระบุว่ากลุ่มตาลีบันถูกกดดันจากผู้แทนเฉพาะการของสหรัฐให้ยอมปล่อยผู้ที่ตกค้างอยู่ในอัฟกานิสถานเดินทางออกนอกประเทศได้โดยเป็นผู้ที่หลงเหลืออยู่หลังสหรัฐปิดฉากการอพยพพลเมืองตามเส้นตายถอนกำลังทหารออกจากประเทศเที่ยวบินดังกล่าวเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำโดยจะเดินทางออกจากสนามบินคาบูล

- Advertisement -

Comments
Loading...